Page 42 - กฎหมายในชีวิตประจำวัน
P. 42
42
โดยผลของกฎหมายประการอื่น เป็นต้นว่า หญิงเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามี ฯลฯ กรณีเหล่านี้เป็นเรื่อง
เฉพาะตัวของบุคคลนั้น การเปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ไม่มีผลใช้ชื่อสกุลเดิมต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
5. กฎหมายให้ความคุ้มครองทั้งชื่อบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ในกรณีที่มีผู้โต้แย้งการใช้ชื่อและกรณี
ผู้อื่นใช้ชื่อโดยไม่มีอํานาจ โดยเจ้าของชื่อมีสิทธิให้ระงับความเสียหาย หากไม่เป็นผล มีสิทธิร้องขอให้ศาล
สั่งห้าม และยังมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ด้วย
6. สถานะของบุคคลเป็นสิ่งประกอบสภาพบุคคลที่ชี้บ่งฐานะหรือตําแหน่งของบุคคล ในการใช้สิทธิและ
ปฏิบัติหน้าที่ เช่น เป็นชายหญิง ผู้เยาว์ ผู้บรรลุนิติภาวะ บิดามารดา บุตร หรือสามี ภรรยาเป็นต้น
7. บุคคลได้สถานะตั้งแต่เกิด เพราะมีสิทธิหน้าที่ตั้งแต่เริ่มสภาพบุคคลหรืออาจก่อให้เกิดขึ้นภายหลัง
เนื่องจากเปลี่ยนแปลงสถานะใหม่ เช่น การสมรส การหย่า เป็นต้น
8.สถานะของบุคคลบางประการต้องจดทะเบียนการก่อหรือเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
9. สถานะของบุคคลที่กฎหมายบังคับให้จดทะเบียนตาม พ.ร.บ. การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2499 ได้แก่
การเกิด การตาย และตาม ปพพ. คือ การจดทะเบียนครอบครัว ได้แก่ การสมรส การหย่า การรับรองบุตร
การรับบุตรบุญธรรม และการเลิกรับบุตลบุญธรรม
2.3.1 ประเภทของชื่อบุคคล
ชื่อบุคคลมีประเภท มี 3 ประเภท คือ
(1) ชื่อที่กฎหมายบังคับให้มีประจําตัวบุคคล ได้แก่ ชื่อตัวและชื่อสกุล
(2) ชื่อที่บุคคลอาจตั้งขึ้นได้อีก ได้แก่ชื่อรอง ชื่อฉายา และชื่อแฝง
(3) ชื่อบรรดาศักดิ์ ได้แก่ชื่อตามราชทินนามที่พระมหากษัตริย์ตั้งให้
การได้มาซึ่งชื่อตัวและชื่อสกุล แตกต่างกัน คือ ชื่อตัว ได้มาตั้งแต่เกิดโดยตั้งขึ้นใหม่ ชื่อสกุล ได้สืบสกุลต่อ
เนื่องมาจากบิดา หรือตั้งใหม่ หรือกรณีได้ชื่อสกุลจากสามี
ชื่อสกุลมีลักษณะสําคัญคือ
(1) จําเป็นต้องมีประจําตัวบุคคล
(2) ต้องแน่นอนคงที่
(3) ไม่อาจได้มาหรือสูญเสียไปโดยอายุความ
(4) ไม่อาจจําหน่ายให้กันได้
2.3.2 การเปลี่ยนชื่อบุคคลและการคุ้มครองชื่อบุคคล
การโต้แย้งเรื่องชื่อมี 2 กรณี คือ
(1) มีผู้โต้แย้งการใช้ชื่อของเรา
(2) ผู้อื่นเอาชื่อเราไปใช้โดยไม่มีอํานาจ และกฎหมายให้ความคุ้มครอง 3 ประการ คือ (ก) ให้ระงับความ
เสียหาย (ข) ขอให้ศาลสั่งห้าม (ค) เรียกค่าเสียหายได้