Page 49 - รวมเลมวจยในชนเรยน 2-2562_Neat
P. 49
39
การเรี ยน แบบร่ วมมือ (Cooperative Learning) และการส อน แบบรายบุ คค ล
(Individualization Instruction) เข้าด้วยกัน เป็นวิธีการเรียนการสอนที่สนองความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล โดยให้ผู้เรียนลงมือท ากิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสามารถจาก
แบบฝึกทักษะและส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การ
เรียนรู้และการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเหมาะสมส าหรับให้นักเรียนได้พัฒนาความสามารถ
หรืออัตราเร็วในการเรียนรู้ อัตราเร็วในการท างานในขณะเดียวกันก็ฝึกให้เป็นคนมีความ
รับผิดชอบ ให้ระลึกอยู่เสมอว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสมาชิกแต่ละคนต้องดูแลช่วยเหลือซึ่ง
กันและกัน เพื่อท าให้งานของกลุ่มก้าวหน้าหรือประสบผลส าเร็จและท าให้กลุ่มได้รับรางวัล
เนื่องจากรางวัลที่ครูให้เป็นรางวัลการพัฒนา นั่นคือ ถ้ากลุ่มใดมีคะแนนมากกว่าครั้งก่อนจะ
ได้รับรางวัลทุกกลุ่ม ซึ่งสามารถกระตุ้นให้นักเรียนร่วมมือกัน เพื่อช่วยให้กลุ่มประสบ
ผลส าเร็จ จะท าให้กลุ่มช่วยเหลือกันอย่างดีที่สุด ช่วยกันเรียนไม่ว่าจะเรียนเก่งหรือเรียนอ่อน
ก็ตาม เป็ นการฝึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกระบวนการเรียนรู้ทั้งด้านความ
รับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่ม ฝึกการมีน ้าใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีเมตตากรุณาต่อ
เพื่อนที่เรียนอ่อนกว่า
วัฒนาพร ระงับทุกข์ (2542 : 42) ได้ให้ความหมายของการสอนแบบร่วมมือ
TAI ว่าเป็นกิจกรรมที่เน้นการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละบุคคล มากกว่าการเรียนรู้ในลักษณะ
กลุ่มเหมาะส าหรับการสอนคณิตศาสตร์ การจัดกลุ่มผู้เรียนจะคล้ายกับเทคนิค STAD และ
TGT แต่ในเทคนิคนี้ ผู้เรียนแต่ละคนจะเรียนรู้และท างานตามระดับความสามารถของตน
เมื่อท างานในส่วนของตนเสร็จแล้วจึงจะไปจับคู่หรือเข้ากลุ่มท างาน ขั้นตอนของกิจกรรม
ประกอบด้วย
1. จัดผู้เรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แบบคละความสามารถกลุ่มละ 2–4 คน
2. ผู้เรียนทบทวนสิ่งที่เรียนมาแล้ว หรือศึกษาประเด็น/เนื้อหาใหม่โดยการ
อภิปรายสรุปข้อความรู้ หรือถามตอบ
3. ผู้เรียนแต่ละคนท าใบงานที่ 1 แล้วจับคู่กันภายในกลุ่มของตนเพื่อ