Page 133 - Annual Report 2552
P. 133

รูปภาพที่ 1 : สัดส่วนของการจำาหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง แยกตามจำานวนบัญชี
                       (รายภาค)

                                         แยกตามจำนวนผูซื้อ = 116,306 บัญชี


                                              2. ภาคตะวันออกเฉ�ยงเหน�อ 7%
                                                     8,249 บัญชี
                                                                2            3. ภาคเหน�อ 8%
                                                                       3         9,854 บัญชี



                                     1. กรุงเทพ                           4
                               และภาคกลาง 77%  1                                4. ภาคใต 8%
                                   89,023 บัญชี                                 9,178 บัญชี










                  นอกจากนั้น  ความพิเศษของพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งรุ่นนี้คือ  การแบ่งจำาหน่ายพันธบัตรเป็น  2
            ช่วง โดยการจัดสรรวงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้เฉพาะกับผู้สูงอายุในช่วงที่ 1 ซึ่งหมายความว่า นอกจากผู้สูงอายุ
            จะมีสิทธิซื้อพันธบัตรก่อนบุคคลอื่นแล้ว  ผู้สูงอายุยังมีสิทธิซื้อพันธบัตรอีกครั้งในช่วงที่ 2  ด้วย  โดยการกำาหนด

            เงื่อนไขดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้เกษียณอายุที่พึ่งพารายได้จากเงินออมเป็นหลัก ซึ่งผลปรากฏว่า

            ธนาคารตัวแทนจำาหน่ายสามารถจัดสรรวงเงินครบ 30,000 ล้านบาท ได้ภายในครึ่งวันแรกของวันที่เริ่มจำาหน่าย
            นอกจากนั้น การที่วงเงินเฉลี่ยต่อบัญชีของผู้ซื้อในช่วงที่ 1 สูงกว่าช่วงที่ 2  แสดงให้เห็นว่า กำาลังเงินออมของ
                                                                             4
            ผู้สูงอายุมีไม่น้อยเลยทีเดียว

                     2.3 ข้อสังเกตของการออกพันธบัตรออมทรัพย์ : ต้นทุนสูง จึงจูงใจ

                      โดยปกติพันธบัตรออมทรัพย์ที่รัฐบาลจำาหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปจะมีต้นทุนที่สูงกว่าพันธบัตร
            รัฐบาลที่จำาหน่ายให้กับนักลงทุนสถาบันเสมอ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรออมทรัพย์ถูกคำานวณ
            จากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลบวกด้วยส่วนชดเชยภาษีไม่เกินร้อยละ  15  ซึ่งในปีงบประมาณ  พ.ศ.

            2552 อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 4 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร

            รัฐบาลรุ่นอายุ 5 ปี ณ วันที่กำาหนดอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งเท่ากับร้อยละ 3.40 ดังนั้น
            รัฐบาลจึงควรพิจารณาการใช้พันธบัตรออมทรัพยเป็นเครื่องมือในการระดมทุนในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้
            ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลอยู่ในระดับที่ยอมรับได้และไม่ก่อให้เกิดการบิดเบือนต่อผลตอบแทนของเงินฝากใน

            ระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในกรณีนี้ การออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งวงเงิน 80,000 ล้านบาท ของรัฐบาล

            คิดเป็นร้อยละ 12 ของความต้องการระดมทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมากที่สุดในช่วง
            5 ปีที่ผ่านมา (ตารางที่ 2)




                4
                วงเงินเฉลี่ยต่อบัญชีในช่วงที่ 1 เท่ากับ 701,008 บาท  วงเงินเฉลี่ยต่อบัญชีในช่วงที่ 2 เท่ากับ 680,131 บาท



  132     รายงานประจำาปี 2552 ANNUAL REPORT 2009
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138