Page 134 - Annual Report 2552
P. 134

PDMO         PUBLIC DEBT

                                                                                                     MANAGEMENT
                                                                                                     OFFICE








            ตารางที่ 2 : การเปรียบเทียบวงเงินและต้นทุนของพันธบัตรออมทรัพย์กับพันธบัตรรัฐบาล


                          ปงบประมาณ             2545    2546   2547    2548    2549    2550    2551    2552

              พันธบัตรออมทรัพย (ลานบาท)       305,000  ไมมี  90,188  10,000  15,339  6,000   18,000  80,000
              ความตองการกูเงิน  (ลานบาท)     502,800  104,800  275,188  126,900  309,839  292,931  272,681  688,519
              สัดสวนของพันธบัตรออมทรัพยตอความตองการกูเงิน  61%  0%  33%  8%  5%     2%      7%     12%
              เปรียบเทียบตนทุนการออกพันธบัตรออมทรัพยกับพันธบัตรรัฐบาล
              ดอกเบี้ยของพันธบัตรออมทรัพย *(รอยละ)  6.100  -   5.900  5.400   6.300   3.750   3.600  4.000
              ดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาล ** (รอยละ)  4.454  -   4.944   4.823    4.74   3.547   3.119  2.865

            *อัตร�ดอกเบี้ยหน้�ตั๋ว

            **yield ของพันธบัตรรัฐบ�ลในวันจำ�หน่�ยพันธบัตรออมทรัพย์



                  3. แนวทางการพัฒนาพันธบัตรออมทรัพย์ให้เป็นเครื่องมือการกู้เงินที่ยั่งยืน : จูงใจ ไม่บิดเบือน
                    คุณสมบัติเด่นชัดของพันธบัตรออมทรัพย์คือ  มีฐานลูกค้าที่เป็นประชาชนรายย่อยทั่วไป  ซึ่งส่วนใหญ่

            แทบจะไม่มีโอกาสเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาลประเภท Loan Bond ได้เลย เนื่องจากเงื่อนไขต่างๆ เช่น วงเงินประมูล
            ขั้นต่ำาในตลาดแรกที่ 100 ล้านบาท และการที่พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ทั่วไปมี Profit Margin ต่ำา ประกอบกับ

            ในอดีตที่ตลาดตราสารหนี้มีขนาดเล็กและสภาพคล่องต่ำา  ดังนั้น  ตลาดตราสารหนี้จึงมิใช่แหล่งลงทุนหรือแหล่ง
            เงินออมของประชาชนรายย่อย  ซึ่งในวันนี้กระทรวงการคลัง  โดย  สบน.  เห็นความสำาคัญของพลังเงินออมของ

            ประชาชนรายย่อย  ซึ่งคิดเป็นร้อยละ  30  ของ  GDP  ซึ่งมีการลงทุนอยู่ในหลากหลายรูปแบบที่มีผลตอบแทน
            และความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนของประชาชนที่

            หลากหลายมากยิ่งขึ้น  สบน.  มีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาพันธบัตรออมทรัพย์ให้เป็นแหล่งเงินออมที่มีผลตอบแทน
            จูงใจ มีความเสี่ยงต่ำา และให้ประชาชนรายย่อยสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย นอกจากนั้น การพัฒนาตลาดรายย่อย

            ถือเป็นกลยุทธ์สำาคัญในการขยายฐานนักลงทุนของตลาดตราสารหนี้ที่สำาคัญยิ่ง เนื่องจากความหลากหลายของ
            นักลงทุนเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งในการสร้างสมดุลของตลาดให้ยั่งยืนในระยะยาว

                  ในการนี้ สบน. ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มการเข้าถึงของประชาชนทุกกลุ่มและทุกภาคส่วน ตัวอย่างเช่น การออก
            พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษเพื่อการศึกษาจำาหน่ายในช่วงเทศกาลวันเด็ก ให้ผู้ถือพันธบัตรมีอายุต่ำากว่า  15  ปี

            โดยกำาหนดให้มีการจ่ายดอกเบี้ยในช่วงเดือน เม.ย. และ ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการจ่ายค่าเทอม โดยพันธบัตร
            รุ่นดังกล่าวจะเป็นพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นอายุยาวพิเศษ (10 ปี ขึ้นไป) นอกจากนั้น อีก 1 กรณีที่มีการเรียกร้อง

            สม่ำาเสมอคือการออกพันธบัตรรุ่นพิเศษเพื่อประชาชนในภูมิภาค (สามารถซื้อได้เฉพาะผู้ที่มีทะเบียนบ้านนอก
            เขตกรุงเทพฯ) ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนในภูมิภาครับรู้ข่าวสารช้า  และมีการเข้าถึงพันธบัตรได้จำากัดกว่าประชาชน

            ในกรุงเทพฯ ซึ่งในกรณีนี้การแก้ปัญหาในเบื้องต้นที่รัฐบาลได้ดำาเนินการไปแล้วคือ การจำากัดวงเงินขั้นสูงใน
            การจำาหน่ายที่ 1,000,000 บาท สำาหรับพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งส่งผล

            ให้มีการจำาหน่ายที่กระจายตัวไปในภูมิภาคที่ดีขึ้น  กล่าวคือ  การจำากัดวงเงินที่ 1,000,000  บาท  ของพันธบัตร
            ออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2552  ส่งผลให้มีการจำาหน่ายในกรุงเทพฯ  และภาคกลางเท่ากับ




                                                                           รายงานประจำาปี 2552 ANNUAL REPORT 2009  133
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139