Page 130 - Annual Report 2552
P. 130
PDMO PUBLIC DEBT
MANAGEMENT
OFFICE
พันธบัตรออมทรัพยในอุดมคติ: สภาพคลองสูง จูงใจ ปลอดภัย ไมสูญตน
ดร.พิมพ์เพ็ญ ลัดพลี
สำ�นักพัฒน�ตล�ดตร�ส�รหนี้
1. การออกพันธบัตรออมทรัพย์อดีต-ปจจุบัน
รัฐบาลมีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ครั้งแรกในปี 2483 เพื่อนำาเงินไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ซึ่งใช้ในการบูรณะและพัฒนาประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังนั้น พันธบัตรออมทรัพย์จึงไม่ใช่ผลิตภัณฑ์
ใหม่ของรัฐบาล แต่ในอดีตพันธบัตรออมทรัพย์ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากเหตุผลหลายประการ เช่น ผลตอบแทนต่ำา
เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชน มีสภาพคล่องต่ำา ประกอบกับเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งทำาให้ผู้ถือ
พันธบัตรออมทรัพย์ไม่สามารถซื้อ-ขายได้อย่างสะดวก ประชาชนรายย่อยจึงไม่รู้จักพันธบัตรออมทรัพย์เท่าใดนัก
ในขณะเดียวกัน ในช่วงกว่า 10 ปีก่อนวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 รัฐบาลดำาเนินนโยบายสมดุลหรือใกล้สมดุล
มาโดยตลอด รัฐบาลจึงไม่มีความจำาเป็นต้องกู้เงินและแทบจะไม่มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์เลย อย่างไรก็ตาม
พันธบัตรออมทรัพย์เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงหลังวิกฤติปี 2540 เนื่องจากพันธบัตรออมทรัพย์
เป็นเครื่องมือหลักในการกู้เงินของรัฐบาล โดยในช่วงปี 2542-2547 รัฐบาลมีการออกพันธบัตรออมทรัพย์เฉลี่ย
คิดเป็นร้อยละ 40 ของความต้องการกู้เงินประจำาปี
จุดเด่นหรือจุดขายของพันธบัตรออมทรัพย์ในช่วงเวลาดังกล่าว คือ มีผลตอบแทนที่จูงใจ และที่สำาคัญยิ่ง
พันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลถือเป็นพันธบัตรที่มีความมั่นคงสูงที่สุด ซึ่งเมื่อประกอบกับผลตอบแทนที่จูงใจ
แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าพันธบัตรออมทรัพย์จะได้รับความนิยมอย่างมาก โดยพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นที่ได้รับ
ความนิยมสูงสุดคือ พันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติ รุ่นอายุ 5 7 และ 10 ปี ที่ออกในปี 2545 และเพื่อเป็นการสร้าง
แรงจูงใจ รัฐบาลจึงได้บวกส่วนชดเชยอัตราภาษีดอกเบี้ยรับที่ไม่เกินร้อยละ 15 บนอัตราผลตอบแทนของตลาด
ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรออทรัพย์ช่วยชาติ รุ่นอายุ 5 7 และ 10 ปี สูงถึงร้อยละ 4.15 5.25
และ 6.10 ตามลำาดับ และทำาให้รัฐบาลสามารถกู้เงินได้สูงกว่า 300,000 ล้านบาท ในคราวเดียว 3
จากนั้นมา ตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2547-2551 เศรษฐกิจมีการขยายตัวได้อย่างปกติ รัฐบาลจึงไม่ได้
ออกพันธบัตรออมทรัพย์มากเท่าใดนัก โดยคงการจัดจำาหน่ายไว้ที่เดือนละ 500 ล้านบาท เพื่อหล่อเลี้ยงตลาด
และกำาหนดอัตราดอกเบี้ยที่บวกค่าชดเชยอัตราภาษีไว้ที่ร้อยละ 2-5 เท่านั้น ประกอบกับ การจำากัดวงเงิน
การจำาหน่ายขั้นสูงไว้ที่ 500,000 บาท ต่อผู้มีสิทธิซื้อ จึงทำาให้พันธบัตรออมทรัพย์รายเดือนในช่วงเวลาดังกล่าว
ไม่ประสบความสำาเร็จเท่าที่ควร
3
รัฐบาลได้มีการกำาหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติก่อนวันจำาหน่ายถึง 2 เดือนโดยในวันที่จำาหน่ายพันธบัตร
ออมทรัพย์ช่วยชาติเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2545 นั้น yield ของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 5 7 และ 10 ปี อยู่ที่ ร้อยละ 3.00 3.80 และ 4.45
ตามลำาดับ อนึ่ง วงเงินพันธบัตรออมทรัพย์ช่วยชาติกว่า 300,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 61ของความต้องการกู้เงินในปีงบประมาณ พ.ศ.
2545
รายงานประจำาปี 2552 ANNUAL REPORT 2009 129