Page 174 - สุขศึกษา พลศึกษา ม.ต้น
P. 174

174



                            1.การตม  เปนการสกัดตัวยาออกมาจากไมยาดวยน้ํารอน เปนวิธีที่นิยมใชมากที่สุด ใชกับ

                   สวนของเนื้อไมที่แนนและแข็ง เชน ลําตนและราก  ซึ่งจะตองใชการตมจึงจะไดตัวยาที่เปน
                   สารสําคัญออกมา  ขอดีของการตม คือ สะอาด ปลอดจากเชื้อโรค มี 3ลักษณะ

                            การตมกินตางน้ํา   คือการตมใหเดือดกอนแลวตมดวยไฟออนๆอีก 10  นาที หลังจากนั้น

                   นํามากินแทนน้ํา
                            การตมเคี่ยวคือ การตมใหเดือดออนๆ ใชเวลาตม 20-30 นาที

                            การตม 3 เอา1    คือ การตมจากน้ํา 3 สวน ใหเหลือเพียง 1 สวน ใชเวลาตม 30-45นาที

                            2.การชง เปนการสกัดตัวยาสมุนไพรดวยน้ํารอน  ใชกับสวนที่บอบบาง เชน ใบ ดอก ที่

                   ไมตองการโดนน้ําเดือดนานๆตัวยาก็ออกมาได   วิธีการชง คือ ใหนํายาใสแกวเติมน้ํารอนจัดลงไป
                   ปดฝาแกวทิ้งไวจนเย็น ลักษณะนี้เปนการปลอยตัวยาออกมาเต็มที่

                            3. การใชน้ํามัน ตัวยาบางชนิดไมยอยละลายน้ํา แมวาจะตมเคี่ยวแลวก็ตาม สวนใหญยาที่

                   ละลายน้ําจะไมละลายในน้ํามันเชนกัน จึงใชน้ํามันสกัดยาแทน แตเนื่องจากยาน้ํามันทาแลวเหนียว
                   เหนอะหนะ เปอนเสื้อผา จึงไมนิยมปรุงใชกัน

                            4.การดองเหลา  เปนการใชกับตัวยาของสมุนไพรที่ไมละลายน้ํา แตละลายไดดีในเหลา

                   หรือแอลกอฮอล การดองเหลามักมีกลิ่นแรงกวายาตม เนื่องจากเหลามีกลิ่นฉุน และหากกินบอยๆ
                   อาจทําใหติดได จึงไมนิยมกินกัน จะใชตอเมื่อกินยาเม็ดหรือยาตมแลวไมไดผล

                            5.การตมคั้นเอาน้ํา   เปนการนําเอาสวนของตนไมที่มีน้ํามากๆออนนุม ตําแหลกงาย เชน

                   ใบ หัว หรือเหงา นํามาตําใหละเอียด และคั้นเอาแตน้ําออกมา สมุนไพรที่ใชวิธีการนี้กินมากไมได

                   เชนกัน เพราะน้ํายาที่ไดจะมีกลิ่นและรสชาติที่รุนแรง ตัวยาเขมขนมาก ยากที่จะกลืนเขาไปที่เดียว

                   ฉะนั้นกินครั้งละหนึ่งถวยชาก็พอแลว
                            6.การบดเปนผง  เปนการนําสมุนไพรไปอบหรือตากแหงแลวบดใหเปนผง  สมุนไพรที่

                   เปนผงละเอียดมากยิ่งมีสรรพคุณดี เพราะจะถูกดูดซึมสูลําไสงาย     จึงเขาสูรางกายได

                   รวดเร็ว   สมุนไพรผงชนิดใดที่กินยากก็จะใชปนเปนเม็ดที่เรียกวา "ยาลูกกลอน"  โดยใชน้ําเชื่อม,
                   น้ําขาวหรือน้ําผึ้ง เพื่อใหติดกันเปนเม็ด สวนใหญนิยมใชน้ําผึ้งเพราะสามารถเก็บไวไดนานโดยไม

                   ขึ้นรา

                            7.การฝน   เปนวิธีการที่หมอพื้นบานนิยมกันมาก วิธีการฝน คือ หาภาชนะใสน้ําสะอาด
                   ประมาณครึ่งหนึ่งแลวนําหินลับมีดเล็กๆจุมลงไปในหินโผลเหนือน้ําเล็กนอย นําสมุนไพรมาฝนจน

                   ไดน้ําสีขุนเล็กนอยกินครั้งละ 1 แกว

                            อยางไรก็ตามการแปรรูปผลิตภัณฑสมุนไพร ควรแปรรูปในลักษณะอาหารหรือเครื่องใชที่

                   ไมจัดอยูในประเภทยารักษา คือไมมีสรรพคุณในการรักษาหรือปองกัน บรรเทา บําบัดโรค เนื่องจาก
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179