Page 145 - พท21001
P. 145

136


                         ถาจะแตงบทตอไปตองมีสัมผัสระหวางบท
                         สัมผัสระหวางบท  ของกาพยยานี  คือ

                         คําสุดทายของวรรคสี่  วรรคสง  เปนคําสงสัมผัสบังคับใหบทตอไปตองรับสัมผัสที่คําสุดทายของ
                  วรรคสอง  วรรครับ  ดังตัวอยาง

                                 ยานีมีลํานํา         สัมผัสคําสัมผัสใจ

                         วรรคหนาหาคําใช            วรรคหลังนี้มีหกคํา
                                 หนึ่งบทมีสี่วรรค พึงประจักษเปนหลักจํา

                         จังหวะและลํานํา              กาพยยานีดังนี้เทอญฯ

                         คําสุดทายของบทตน  คือคําวา  “คํา”  สงสัมผัสไปยังบทถัดไป  บังคับใหรับสัมผัสที่คําสุดทาย
                  ของวรรคสองหรือวรรครับ  ในที่นี้คือคําวา  “จํา”

                         ข. สัมผัสใน  แตละวรรคของกาพยยานีจะแบงชวงจังหวะเปนดังนี้

                           วรรคแรก  เปน  สองคํากับสามคํา  คือ  หนึ่งสอง  หนึ่งสองสาม
                           วรรคหลัง  เปน  สามคํากับสามคํา  คือ  หนึ่งสองสาม  หนึ่งสองสาม

                           ฉะนั้น  สัมผัสในจึงกําหนดไดตามชวงจังหวะของแตละวรรคนั่นเอง  ดังตัวอยาง
                           ยานี – มีลํานํา     สัมผัสคํา – สัมผัสใจ

                  ขอสังเกต
                         กาพยยานีไมเครงสัมผัสในจะมีหรือไมมีก็ได ขอเพียงใชคําที่อานแลวราบรื่นตามชวงจังหวะของ

                  แตละวรรคนั้น ๆ เทานั้น  สวนสัมผัสนอกระหวางวรรคที่สาม  วรรครอง กับวรรคที่สี่  วรรคสง  นั้นจะมี

                  หรือไมมีก็ไดไมบังคับเชนกัน

                  2. กาพยฉบัง  16


                  แผนผัง















                  ตัวอยาง

                              กาพยนี้มีนามฉบัง             สามวรรคระวัง
                         จังหวะจะโคนโยนคําฯ
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150