Page 6 - Book
P. 6

เขาเรียกว่ามีจิตที่มุ่งมั่น อันนี้เขาเรียกว่าฉันทะนะครับ มีก าหนดเป้าเรียกว่าจิตตะ แล้วก็เดิน

                                 ไป ในระหว่างนั้นก็มีวิมังสาด้วย วิงมังสาก็คือเราควบคุมการเดิน เราต้องควบคุมการเดิน
                                 รู้ตัว เราต้องปรับปรุงการเดินให้มันสม่ าเสมอนะ อะไรอย่างนี้ ก็หลักง่าย ๆ พี่ไม่ค่อยรู้ธรรม

                                 มะลึกซึ้งเท่าไหร่นะ เป็นแบบธรรมมะฉบับชาวบ้าน ชาวบ้านหมายความว่า ฉันทะ วิริยะ จิต

                                 ตะ วิงมังสา อย่างนี้
                    คุณณัฐพล     คือบางคนพอพูดค าบาลี สันสกฤตแล้วมันก็ดูไกลตัว ดูน่ากลัว คือถ้าไม่ได้สนใจจริง ๆ ก็จะไม่

                                 ไปศึกษาค าบาลี สันสกฤตเหล่านี้ แล้วอะไรท าให้พี่ต่อน ามาสู่การมีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิงมัง
                                 สา ในแบบพุทธชาวบ้านนี้ละครับ ?

                    คุณธนญชัย  คือที่เราพูดทุกวันก็มาจากบาลีนะ ภาษาพี่ที่ใช้กันอยู่ก็คือค าบาลีนะ แล้วบางส่วนก็เป็น

                                 สันสกฤตด้วย บางส่วนมากเขมรด้วย ท าไมพี่รู้ล่ะ ร้องไห้ หัวเราะ ไอ้ค าหลาย ๆ ค าใน
                                 ภาษาไทยก็มีรากจากตรงนั้น ก็เพิ่มไปอีกนิดหนึ่งไม่ได้หรือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ เพิ่มไปอีกนิด

                                 เดียวเอง สี่ค า แล้วหาความหมายมันก็แค่นั้นเอง อันนี้พูดถึงเรื่องภาษาก่อนนะ อีกค าถาม
                                 หนึ่งพี่ไม่มีสติพี่ลืมไปแล้ว บอลถามว่าอะไรนะ

                    คุณณัฐพล     ผมถามว่าอะไรที่ท าให้พี่ต่อน าค าบาลีสันสกฤตเหล่านั้นมาเชื่อมโยงกับความเป็นพุทธะได้ ?

                    คุณธนญชัย  อ๋อ พุทธชาวบ้าน ประเด็นคือมันยากส าหรับพี่นะ อภิญญา ลึก โลกุตระ โอ้โห่ ไปไม่ถึงจริง ๆ
                                 วะ แต่ค่อย ๆ ง่าย ๆ มีสมาธิเปล่า มึงมีสมาธิเปล่า เออ ต้องมี ไอ้ค าอย่างนี้ง่าย แล้วเราก็

                                 อ่านอันหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านก็พูดว่า หากเข้าใจธรรมเพียงข้อเดียว เข้าใจใบไม้เพียงใบเดียว

                                 อย่างลึกซึ้ง คุณก็จะเข้าใจป่าทั้งป่าได้ เราก็เลยไม่ต้องไปรู้เยอะ เราไม่ต้องอ่านไตรปิฎก
                                 ทั้งหมด เราขออันนี้แต่ว่าให้มันเข้าใจจริง ๆ  แล้ววิธีที่จะเข้าใจมันจริง ๆ ก็คือต้องปฏิบัติ ไม่

                                 ปฏิบัติไม่ได้ คืออ่านมันยังไม่เข้าใจนะ แค่อ่านนี้ไม่เข้าใจ พุทธนะ ต้องท านะ แล้วท านะก็ยัง
                                 ไม่เข้าใจอีกนะต้องท าทุกวันด้วย อันนี้จะเข้าใจ อันนี้คือสูตรของมัน เป็นประตูเปิด คราวนี้

                                 ถ้ารู้อ่านแล้วก็สรุปเลยนี้ไม่ได้ต้องปฏิบัติ ท าวันหนึ่งก็ไม่ต้องมาคุยกันต้องทุกวัน คราวนี้มึง

                                 เอ๋ย ฟินเลย อันนี้ในความคิดเรานะครับ
                    คุณณัฐพล     น่าสนใจนิดหนึ่ง จริง ๆ เยอะเลยล่ะครับ ตรงที่ว่า ค าว่า “เข้าใจ” พี่ต่อมองค าว่า “เข้าใจ”

                                 ยังไงครับ เข้าไปในใจ แล้วมันจะเข้าไปในใจได้ยังไงครับ ? เพราะว่าเราพูดกันได้ว่าเข้าใจ
                    คุณธนญชัย  ผู้ที่ท าจะเข้าใจ

                    คุณณัฐพล     ขออนุญาติไปที่อาจารย์วินนะครับ อาจารย์วินความเข้าใจนี้ครับมันเป็นยังไงบ้างครับ ในเชิง

                                 ภาษาหรือในเชิงปฏิบัติ
                    ดร. วิชญ     ผมไม่รู้ด้วยซ้ าว่าผมเข้าหรือเปล่า จริง ๆ อาจารย์โป้ยเชิญผมมาพูดนี่เครียดมากเพราะว่า

                                 เหมือนกับเอาเรามาเป็นแบบ Idol ในการบรรลุธรรมแล้วประมาณหนึ่ง จริง ๆ คือเอา
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11