Page 7 - Book
P. 7
ส่วนตัวผมมองว่า เราจะมี Moment หนึ่งในชีวิตเราที่เรารู้สึกว่าเราต้องการพุทธเข้ามาช่วย
ผมว่าทุกคนต้องมีแหละไอ้ช่วง Low ของชีวิตอะครับ ช่วงที่มันต่ ามาก ๆ ช่วงที่เราอยากจะ
หาทางออกแล้วชีวิตจริงมันให้เราไม่ได้ เรามืด ‘ท าไมฟ้ามันมืดจังวะ’ ไรอย่างนี้ แล้วคือผม
โชคดีมากตอนนั้นผมเจอพระรูปหนึ่ง จริง ๆ ไม่ต้องเป็นพระก็ได้นะ ใครก็ได้ ผมถึงโชคดีว่า
ไม่ใช่โชคดี มันเป็นโอกาสว่าคนนี้เป็นพระ แล้วเขาพูดอะไรบางอย่าง แล้วโลกเรามันสว่าง
เรารอดแล้ว เรารอดในช่วงเวลาช่วงนั้น แล้วเราก็เดินต่อ ถามว่าผมเข้าใจไหม ผมเข้าใจที่เขา
พูดในแบบของผม แต่พอนึกย้อนกลับไป ไอ้ Moment ไอ้ค าพูดเขาอะมันกลับมาหาเราแล้ว
เราก็เข้าใจใหม่ทุกครั้ง
คุณณัฐพล มันติดอยู่ในหัว
ดร. วิชญ ผมก็เลยรู้สึกว่าไอ้ครั้งนั้นน่ะผมเข้าใจจริงหรือเปล่า ก็พอมาครั้งนี้กูก็เข้าใจอีกแบบหนึ่งแล้ว
เลยมานั่งคิดว่าไอ้เข้าใจอะมันคือการที่พูดภาษาพระมันก็คือน้ าเต็มแก้วครับ พอเราบอกเรา
เข้าใจคือกูก็ไม่ต้องไปคิดกับมันอีกแล้วเพราะกูเข้าใจแล้ว เหมือนสอบข้อสอบแล้วเราผ่าน
แล้วอะไรอย่างนี้ แต่ผมกลับมองว่าบางครั้งเราลืมเรื่องความเข้าใจทิ้งไปก็ได้ เพราะว่าถ้าเกิด
ว่าเราเข้าใจ เราจะเข้าใจอีกไม่ได้แล้ว บางทีความเข้าใจมันไม่ใช่เรื่องส าคัญนะผมว่า เรื่อง
ส าคัญคือมันใช้ประโยชน์กับเราได้ไหม คือส่วนตัวผมมองว่าถ้าเราจะสามารถหยิบมุมอะไร
บางอย่างของพุทธมาใช้แล้วมันเป็นประโยชน์ เราเจอทางรอด เราเจอทางออก เราหายใจ
ออก คือต่อให้คุณแบบ ค้ายาบ้าก็ได้เอา อาชีพคุณโครตบาปเลย ซึ่งอาชีพค้ายาบ้าคือเรา
ตีความเขาเป็นคนบาปใช่ไหมครับ เขาไม่น่าจะมาต้องมาเจอพระแล้ว เขาควรจะไปทาง
ซาตานอะไรอย่างนี้ แต่ในความเป็นจริงถ้าเกิด ณ Moment หนึ่งเขา เราเอาหลักพุทธอะไร
บางอย่างไปสอนเขาแล้ว เห้ย เขาเลิกค้ายาบ้าล่ะ ? เขาเข้าใจมันหรือปล่าผมไม่รู้ แต่ถ้ามัน
ท าให้เขาเจอทางออกบางอย่างของชีวิต ‘เออ กูค้ายาบ้าไม่ดีนะ’ เพราะว่ามีมุมบางอย่างของ
มันจะเป็นพุทธก็ได้หรือมันจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ถ้าเกิดเขามองว่าเป็นพุทธแล้วเอามาใช้
ประโยชน์ได้ มันเป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง เป็นประโยชน์กับคนรอบข้างเขา เขารอด ผมว่า
อันนี้ดีกว่าเข้าใจ ในมุมมองของผมครับ คือผมมองคล้าย ๆ กัน คือเรามองพุทธในแง่ว่ามัน
ไม่ใช่รูป เรามองพุทธว่ามันเอามาใช้ประโยชน์อย่างไร ถ้าผมฟังพี่ต่อนะครับคือ อย่างพี่ต่อ พี่
ต่อเอามาใช้ประโยชน์กับการด าเนินชีวิต เอามาใช้ประโยชน์กับการท างาน อย่าง Moment
หนึ่งของผม ผมก็ยกตัวอย่าง ผมเอามาใช้ประโยชน์ว่าเรารอดจากความทุกข์ ณ ห้วงนั้นอะไร
อย่างนี้ แล้วต่อมาผมท างานศิลปะผมก็เอามาใช้ประโยชน์ พอเราใช้ประโยชน์ปั๊บเรารู้สึกว่า
‘เออ พุทธมันมีประโยชน์เว้ย’ มันก็เลยท าให้เราสนใจว่าไอ้ที่มันมีประโยชน์มันคืออะไรวะ
เพราะล าพังแค่ท่อง อรหัง สัมมา นี้ไม่น่าจะมีประโยชน์ตามล าพังนะ แต่ถามว่านั่นมี