Page 10 - Book
P. 10

คุณณัฐพล     ถ้าอย่างนั้นเริ่มเห็นความย้อนแย้งในความเป็นนามธรรมของความเป็นพุทธนิดหนึ่ง ตรงนี้ถ้า

                                 ผมยกตัวอย่างเท่าที่พี่ต่อพูดมานี้ ผมนึกภาพถึงคน ๆ  หนึ่งที่เขียนงาน Abstract แล้วเขียน
                                 ไปเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกว่ามันยังไม่สุด มันยังไม่จบ Painting ชิ้นนี้มันยังไม่เสร็จ มันเหลืออีกนิด

                                 หนึ่ง แล้วมันก็จะเหลืออีกนิดหนึ่ง เหลืออีกนิดหนึ่ง เหลืออีกนิดหนึ่งอยู่อย่างนี้ แล้วมันไม่

                                 สามารถตอบตัวเองได้ว่าหยุดแล้ว ต้องให้คนรอบข้างมาพูดว่า เห้ย หยุด มันจบแล้ว ความไม่
                                 มั่นใจในตัวเองว่ามันจบแล้วนี้มันท าให้งานชิ้นนั้นอาจจะดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้ เหมือนกับที่ถ้า

                                 Picasso เขียนรูปมาห้ารูปแล้วจบ นิยามตัวเองว่าพอแล้วดีแล้ว แล้วมันอาจจจะดีกว่านี้ได้
                                 อีก ซึ่งค าว่าดีกว่านี้ได้อีกถ้ามองย้อนกลับมาก็คือความไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ยังไม่เสร็จ มัน

                                 ยังได้อีก ตรงนี้มันย้อนแย้งกัน แล้วพี่ต่อมองยังไงครับ ต่อให้มันจะเป็นฉันทะ หรือจะเป็น

                                 ความยังไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ?
                    คุณธนญชัย  พี่ท างานนะ ท าโฆษณามันมี Timeline มันมี Deadline พี่จะให้มี Deadline มันจบแล้ว ถ้า

                                 ถามพี่นะ แต่ถ้าพี่เอาคนอื่นมาพูด มันยังดีไม่พอ พี่ก็แก้ ทุกอย่างมันมี Deadline พี่ก็เชื่อว่า
                                 Picasso มันก็ก าหนด Deadline มันก็ต้องมี Deadline มันจบ แต่ไม่ใช่ว่าพอจบภาพนี้แล้ว

                                 กูก็ไปนอนที่เตียง แล้วก็ดู แล้วกูก็รู้สึกว่า เออ กูไม่อยากเขียนรูปอะไรแล้ว พอแล้ว ฟิน งอ

                                 งอหมด ตีนงอ มืองอ งอมืองอตีน แล้วก็ไม่ท าอะไรเลย แต่ Picasso มันไม่ใช่ พอมันกลับมา
                                 ดูปุ๊บ รูปนี้มันจบ แต่รูปหน้าต้องดีกว่านี้ คือเราคิดอย่างนั้นนะ เราก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องศิลปะ

                                 มาก แต่ถ้าเป็นเรา เราจะคิดแบบนั้น มีความมุ่งมั่นปรารถนาที่จะให้ดีขึ้น เรียกว่า จิตตะ มี

                                 ฉันทะตอนเขียนมีความสุข จิตตะคือสมาธิด้วย แล้วมีวิมังสาเพื่อที่จะตรวจสอบว่าไอ้งานชิ้น
                                 เดิม ๆ ที่ท ามานี้มันยังดีไม่พอ มันต้องดีกว่านี้ได้อีก เรื่องมันประมาณนี้ครับ

                    คุณณัฐพล     เอ่อ อาจารย์วินอยากจะ Share ตรง Point นี้ยังไงบ้าง ประเด็นนี้ ?
                    ดร. วิชญ     ขอค าถามอีกทีครับ (หัวเราะ) ไม่มีสมาธิ มัน IN (INNER คือ ความรู้สึกร่วม)  คือก าลังคิด
                                                                                                2
                                 เห้ย มันมีบางอย่างคล้าย ๆ กัน แต่ก็ต่างกันแหละครับ คือชีวิตคนทุกคนมันไม่เหมือนกัน แต่

                                 พอฟังแล้วมันก็จะเปรียบเทียบกับตัวเองแล้ว ผมคิดว่าหลาย ๆ คนคงฟังแล้ว ‘เออ เราก็มีนะ
                                 แต่เราคิดอย่างเขาหรือเปล่าวะ ? ท าไมกูคิดไม่ได้อย่างนี้วะ ? แล้วท าไมกูไม่คิดอย่างนี้วะ ?’

                                 อะไรอย่างนี้ ขอค าถามอีกรอบ
                    คุณณัฐพล     คือผมถามพี่ต่อแล้วก็จะถามอาจารย์วินด้วยว่า มันมีความย้อนแย้งกันอยู่ในระหว่างที่มันดี

                                 กว่านี้ได้อีก กับรู้สึกว่ามันพอแล้ว มันดีอยู่แล้ว มันน่าจะไปได้อีกกับแค่นี้ก็พอแล้ว เราจะท า

                                 ให้มันสุดไปท าไม ? อะไรอย่างนี้อะครับ ซึ่งมันจะไปเชื่อมโยงกับฉันทะ ซึ่งฉันทะมันคืดจิตใจ
                                 หรือว่ามีจิตที่จะท าต่อไปเรื่อย ๆ อะไรอย่างนี้ครับ แล้วบทสรุปหรือว่าไม่ใช่บทสรุปซะทีเดียว



               2  อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้ถอดความ
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15