Page 11 - Book
P. 11

แต่ว่ามันเป็นเหมือนแบบความย้อนแย้งที่มันเกิดขึ้นตรงนี้ แล้วบวกกับค าว่าความเข้าใจใน

                                 ระดับปัจเจก มันจะมีจุดไหนที่เข้าถึงค าว่าพอแล้ว ดีแล้ว ได้อีก ในมุมมองของอาจารย์วิน
                                 ครับ ?

                    ดร. วิชญ     คือไอ้ค าว่าพอนี่อันตรายนะครับ อันตรายมาก ในระดับประเทศเลยเนอะ จริง ๆ เลือกตั้ง

                                 เพิ่งผ่านไปสองวัน คือถามสิบคนที่เกี่ยวข้อง อันนี้ยกตัวอย่างนะครับ เพราะว่าค าว่าพอนี่
                                 อันตราย ในชีวิตประจ าวันเราก็รู้สึกว่าอันตราย พอเพียงแล้วแต่กูจนอยู่กูก็พอ ถูกเปล่าวะ ?

                                 คือเขาจะงออยู่กับตัวเองแล้วพอได้ไหม คือมันเป็นค าที่ดิ้นได้นะครับ พอ พอหรือยัง เพราะ
                                 ส าหรับผมถ้าถามผมว่าแล้ว พุทธบอกให้หยุด พุทธบอกให้พอ พุทธบอกให้ว่าง ผมเคยเจอ

                                 ปัญหาคล้าย ๆ กันคือตอนที่ผมท างาน Thesis ได้ A ผมท าเรื่องศาสนาพุทธ แล้วมันก็เจอค า

                                 ว่า No View ภาษาอังกฤษ No View ศาสนาพุทธคือสอนให้เรา ไร้ View นะครับ มีมุมมอง
                                 ที่ถูกต้องก่อนโดยการให้เราเรียนรู้หลักธรรม เรียนรู้ทุกอย่าง หลังจากนั้นเขาสอนให้เราสละ

                                 เว้ย คือขั้นสุด เหมือนขั้นสุดคือต้องลืมมัน คือจะไปนิพานได้ต้องไม่ยึดติดแม้กระทั่ง
                                 หลักธรรม ต้องปล่อย มันคือการให้ว่าง ค าถามที่ผมโดนใน Class เรียนคือ แล้วคุณท างาน

                                 ท าไม ? มันมีศิลปินอยู่คนหนึ่งชื่อ Tehching Hsieh นะครับ Tehching Hsieh เป็นคน

                                 ไต้หวันงานเขาพูดเรื่องพุทธ งานเขาคือหยุด ไม่ท า เป็นงานนะ ผมจะตั้งโจทย์ ปีนี้ผมจะไม่
                                 จับพู่กันเลย ปีนี้ผมจะไม่ท าอันนี้เลย ปีนี้ผมจะผูกตัวเองอยู่กับคนนี้ ปีนี้ผมจะอยู่แต่ในห้องนี้

                                 คือ Set มาเป็นสิบสองโจทย์แล้วก็ คือ สุดท้ายมันมีอยู่ช่วงหนึ่งมันหายไปจากวงการเลย คือ

                                 ผมดู ‘เห้ย ไอ้นี้สุดแล้วเนี่ย’ ถ้าเกิดเราจะคิดในมุมว่า หยุด พอ No View เขาบอกว่าสุญญ
                                 ตา ความว่าง คือนี่โครตว่างเลย ว่างงานเลย แล้วก็ Claim ว่าตัวเองเป็นงานศิลปะ แล้วถ้า

                                 เราท างานต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะไป Dead End ที่อันนี้ ทางตันเราคืออันนี้ ว่าเราจะท าอะไร ?
                                 พอแค่นั่น ผมเลยมานั่งคิดว่าจริง ๆ แล้วเราหวังข้างหน้าไม่ได้ คล้าย ๆ ที่พี่ต่อพูดตอน

                                 Moment การท าไอ้หมูกระทะใช่ไหมครับ โฆษณาอันนั้นที่บอกว่า เราหวังอนาคตว่าเราจะ

                                 ไปสิ้นสุดที่พอ Master(piece) สมบูรณ์ หยุด อะไรสักอย่าง มันมาไม่ถึงหรอกในวันนี้ครับ
                                 ถ้ามันเจอเราก็คิดว่าไม่ใช่อยู่ดี เพราะเราก็คิดว่ามันต้องดีกว่านี้ พอกว่านี้ มันไม่มีวันที่งานจะ

                                 เสร็จได้ ไม่มีวันที่เราจะเจอจุดที่สูง จุดที่พอ จุดที่ใช่ พี่ต่อใช้ค าว่า Deadline ผมก็มองคล้าย
                                 ๆ กัน แบบผมจะมองว่าเหนื่อย ผมตั้งเป้าให้งานผมหยุดที่ กูคิดไม่ออกแล้ว คืองานผมเป็น

                                 ลักษณะของการใช้ Process เข้ามาเกี่ยวข้องกับมัน จะท าให้ Process เดินหน้าได้ต้องมีจิต

                                 ที่ผูกกับมัน จิตเราต้องนิ่งพอที่จะท างานไปกับมัน Painting ถ้าเรายังมีใจที่จะจดจ่อกับมัน
                                 เรายังรู้สึกผูกพันกับมันอยู่ผมจะยังท า ถ้าผมไม่มีใจผมหยุด

                    คุณณัฐพล     คือมันเกิดขึ้นเองเลยใช่ไหมครับ ?
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16