Page 9 - Book
P. 9
สรรค์ต่อการพัฒนาตัวเองค่อนข้างสูง พุทธนี้คือการศึกษาตัวเองเพราะฉะนั้นตัวผู้ที่ท างาน
นั้นเองต้องวิเคราะห์ให้ได้ก่อนว่าดีแบบนี้มันดีมาได้เพราะอะไร และต้องวิเคราะห์ได้ด้วยว่า
และถ้าจะดีกว่านี้ท ายังไง ? ต้องมีจิตที่มุ่มมั่นที่จะท าให้ดีขึ้น และที่ส าคัญที่สุดก็คือถ้าเรารู้สึก
ว่ามันดีแล้ว มันมีอะไรบ้างวะที่มันยังดีกว่านี้ได้อีก ? มันยังดีไม่พอมันยังมีอะไรที่ดีกว่านี้ มี
อีกไหม ? ถ้ามันยังมีอยู่ก็ท าให้มันดีขึ้น แต่ทุกอย่างมันจะจบตรงที่เราพอใจว่ามันดีแล้ว แล้ว
เราก็ตอกย้ าแล้วเราก็อธิบายต่อคนหลาย ๆ คน คือเราจะไปอธิบายกับคนเจ็ดพันล้านคนทั่ว
โลกไม่ได้หรอกว่าอันนี้มันดีแล้ว เขาไม่ได้มาสนใจกับเราหรอก แต่สิ่งที่เป็นแรงขับดันงาน
ของเราก็คือต้องคิดเรา ก็คือถ้าเป็นพี่นะพี่จะคิดว่ามันยังดีได้กว่านี้อีก พี่จะคิดอย่างนั้น แล้ว
พี่วิเคราะห์ แล้ววิเคราะห์ก็ต้องวิเคราะห์ได้ให้ถูกด้วย ห้ามเข้าข้างตัวเอง
คุณณัฐพล ยังไงครับ วิเคราะห์ให้ถูก ?
คุณธนญชัย ถอยออกมาดูงานตัวเอง มันเป็นเรื่องยากส าหรับงานศิลปะ เพราะว่าศิลปะมันก็ เมื่อเรา
เขียนรูปแล้วเรามีความพึงพอใจเนอะ แต่ Picasso อะมันไม่เคยหยุดเลย Picasso ไม่เคย
หยุด มันท า มันท า โอ้โห มันเริ่มจาก Blue , Blue Period แล้วก็ Cubism แล้วก็ Dada
แล้วก็พัฒนาไปอีก ไปอีก ไปอีก African จนเป็น Picasso มันไม่เคยหยุดเลยอะ มันสนุก มัน
มีฉันทะ มันมีจิตตะ เห้ย มันอยากจะไปจริง ๆ มันมันส์อะ แล้วมันก็คิดว่ามันยังไม่ดีพอ
อย่างนี้ส าหรับเรานะ แต่ถ้า Picasso เขียนสักห้ารูปแล้วก็จบ กูพอใจแล้ว กูฟินแล้ว ก็จะไม่
มี Picasso อันนี้ในความคิดเรา
Pablo Picasso, La Célestine (La femme à la taie) (La Celestina), 1904 (Blue Period)