Page 92 - mukdahansuksapub
P. 92

                                                                                                             92                                  สําหรับอํานาจหน้าที่ของข้าหลวงซึ่งมาประจําอยู่ ได้มีท้องตราโปรดขึ้นมา คือ                             ๑.เป็นผู้แนะนําตักเตือนให้เจ้าเมือง,กรมการเมือง ซึ่งเป็นคนในท้องถิ่นทําราชการให้ถูกต้อง  โดยเฉพาะ                 ราชการเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ                              ๒.กํากับการพิจารณาตัดสินความเกี่ยวกับโจรผู้ร้าย                              ๓.เป็นผู้พิจารณาบรรดาความที่ชาวต่างประเทศเป็นโจทย์  ชาวสยาม(ไทย)เป็นจําเลย                              ๔.เป็นผู้พิจารณาความอุทธรณ์  ที่กล่าวโทษเจ้าเมืองหรือผู้รักษาเมืองที่ไม่มีกรมการในเมืองนั้นชําระได้                                               ท่านได้ออกเดินทางจากเมืองนครราชสีมาเพื่อมาดํารงตําแหน่งข้าหลวงประจําเมืองมุกดาหาร                 เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖   พร้อมด้วยหลวง,ขุน,หมื่น,ไพร่รวม ๓๘ คนคือนายทุ้ย(น้องชายของท่าน)                 หลวง ๒,ขุน ๕,หมื่น ๒,เสมียน ๒,ทนาย ๔,เลก ๖,เลกหมอช้าง ๕,เลกควานช้าง ๕,ทาส ๒                                              ฝรั่งเศสได้ดินแดนลาวเป็นอาณานิคม เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖  ตามสัญญาสงบศึกที่ได้ลงนามเมื่อวัน                 ที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๖ ให้สยาม(ไทย)สละสิทธิ์ทั้งปวงในดินแดนฝั่งโขงตะวันออก(ดินแดนลาว)ห้ามฝ่ายไทย                 ตั้งกองทหารหรือค่ายทหารในเขต ๒๕ กิโลเมตรริมฝั่งโขง     ต่อมาฝรั่งเศสได้ตั้งเมืองขึ้นใหม่ที่บ้านท่าแห่ริมฝั่ง                 โขงซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองมุกดาหารแล้วตั้งเมืองขึ้นใหม่ชื่อว่า เมืองสุวรรณเขตข้าหลวงฝรั่งเศสคนแรกที่มาประ                 จําอยู่ณเมืองสุวรรณชื่อ ม.โฮรังใด  ส่วนเจ้าเมืองมุกดาหารคือ พระจันทรเทพสุริยวงษา    ซึ่งต่อมาได้รับพระราช                 ทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ จันทรสาขา)                                             ต่อมาฝรั่งเศสได้ขอตั้งผู้แทนทางการค้า( Commercial  Agency) ขึ้นตามหัวเมืองริมฝั่งโขงเช่นที่                 เมืองเขมราฐ,เมืองมุกดาหาร,เมืองนครพนม,เมืองท่าอุเทนและเมืองหนองคาย  แต่พฤติกรรมของผู้แทนทางการ                 ค้าที่ส่งมาประจําตามเมืองต่างๆเหล่านี้ทํางานเสมือนสายลับของฝรั่งเศส  คอยสอดส่องสืบเสาะดูว่าฝ่ายไทยกระ                 ผิดในสัญญาหรือไม่เช่นมีทหารไทยในเขต ๒๕ กิโลเมตรหรือไม่และพยายามเกลี่ยกล่อมให้คนไทยอพยพข้าม                 โขงไปอยู่ในฝั่งลาวซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส                                            วันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๔๓๖ ม.โอรังใด ข้าหลวงฝรั่งเศสประจําเมืองสุวรรณเขตพร้อมด้วย                 ฝรั่งเศสอีก ๓ คนและล่ามญวนได้นั่งเรือกลไฟชื่อเรือมาสซีข้ามโขงมาจอดที่ท่านํ้าเมืองมุกดาหาร   แล้วให้ล่าม                 ญวนมาเชิญเจ้าเมืองและข้าหลวงประจําเมืองมุกดาหารไปพบ    ล่ามญวนบอกว่าฝ่ายฝรั่งเศสจะให้กวานบาฝรั่ง                 เศส (กวานบาเป็นภาษาญวนแปลว่าร้อยเอก)มาเป็นกงสุลคือผู้แทนทางการค้ามาประจําอยู่ที่เมืองมุกดาหาร  จึง                 ขอให้เจ้าเมืองและข้าหลวงพาไปดูที่ตั้ง     ข้าหลวงและเจ้าเมืองจึงนําฝรั่งเศสเดินเลียบริมฝั่งโขงไปทางใต้จนถึง                 วัดศรีสุมังค์  ฝรั่งเศสขอให้เจ้าเมืองสร้างที่พักให้จะเป็นเงินเท่าใดจะจ่ายให้ทีหลัง   แล้วเดินย้อนขึ้นมาทางเหนือ                 จนถึงศาลากลาง(ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงหน้าจวนเจ้าเมือง)     ฝรั่งเศสบอกว่าจะขอมาพักที่ศาลากลางก่อนขอให้กั้นห้อง                 ให้และให้ปลูกโรงครัวอีกหลังหนึ่งด้วย  ฝรั่งเศสบอกว่าเมื่อฝรั่งเศสมาอยู่ที่นี่แล้วเจ้าเมืองต้องรับผิดชอบดูแลรัก                 ษาด้วย     หากมีทรัพย์สินสิ่งของสิ่งใดของฝรั่งเศสเสียหายเจ้าเมืองจะไม่พ้นผิดและบอกอีกว่าในสัญญาระหว่าง                 ไทยกับฝรั่งเศสห้ามมีข้าหลวงไทยอยู่ริมฝั่งโขงในเขต ๒๕ กิโลเมตรด้วย
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97