Page 33 - หลักโภชนา
P. 33
๒๖
ตัวอยางเชน ออกกําลังกายระดับความหนักปานกลางเปนเวลา ๑ ชั่วโมง ประมาณคา
แคลอรีไดเทากับ ๖ x ๖๐ = ๓๖๐ กิโลแคลอรี
๓. การประมาณคาจํานวนแคลอรีที่ใชในกิจวัตรประจําวัน ซึ่งไมใชการออกกําลังกาย
หรือกิจกรรมพิเศษตางๆ
• ถาทํางานแบบนั่งโตะ ใหบวกอีก ๒๐-๔๐% ของ RMR
• ถาทํางานแบบหนักปานกลาง ใหบวกอีก ๔๐-๖๐% ของ RMR
• ถาทํางานหนักหลายอยาง ใหบวกอีก ๖๐-๘๐% ของ RMR
(%) x (RMR) = (จํานวนแคลอรีที่ใชในกิจกรรมประจําวัน)
๔๐ x ๑,๕๔๐ = ๖๑๖ กิโลแคลอรี/วัน
๔. บวกตัวเลขที่ไดจากขอ ๑, ๒ และ ๓ เปนจํานวนกิโลแคลอรีที่ใชทั้งหมด (RMR) + กิโลแคลอรี
ที่ใชในการออกกําลังกาย + กิโลแคลอรีที่ใชในกิจวัตรประจําวัน = กิโลแคลอรีที่ใชทั้งหมดในแตละวัน
ตัวอยาง
๑,๕๔๐ + ๓๖๐ + ๖๑๖ = ๒,๕๑๖ กิโลแคลอรี
อีกวิธีหนึ่งในการคํานวณหาพลังงานที่รางกายตองการใชตลอดวัน คือ
พลังงานที่ตองใชทั่วไป + พลังงานที่ตองการใชในการฝก
ตัวอยาง นักกีฬายูโดเพศหญิงนํ้าหนัก ๖๐ กิโลกรัม นอนพักผอนวันละ ๕ ชั่วโมง และมี
เวลาฝกซอมวันละ ๓ ชั่วโมง
การคํานวณพลังงานที่ตองการใชทั่วไป มีขั้นตอน คือ
๑. พลังงานพื้นฐาน (Basal Metabolism Rate : BMR)
ขั้นที่ ๑ ก. นํ้าหนักตัว x BMR factor
• ชาย BMR factor คิด ๑ กิโลแคลอรี/นํ้าหนักตัว ๑ กิโลกรัม
• หญิง BMR factor คิด ๐.๙ กิโลแคลอรี/นํ้าหนักตัว ๑ กิโลกรัม
กรณีเพศหญิงนํ้าหนักตัว ๖๐ กิโลกรัม
๖๐ x ๐.๙ แคลอรี = ๕๔ กิโลแคลอรี/ชั่วโมง
ข. หา BMR ๒๔ ชั่วโมง
= ๕๔ x ๒๔ = ๑,๒๙๖ กิโลแคลอรี/วัน