Page 50 - บทเรียนการสื่อสาร
P. 50

่
                                                                                              ั
                   เพื่อประหยัดเวลา ท าให้มีโอกาสในการพูดคุยกับผู้ปวยน้อยลง และไม่สามารถค้นหาปญหาหรือ
                                                                                            ่
                                   ่
                                                        ่
                   ความกังวลของผู้ปวยได้  ดังนั้นผู้ที่ดูแลผู้ปวยเรื้อรังจึงต้องมีทักษะในการคัดเลือกผู้ปวยที่คาด
                                                                            ่
                   ว่าต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการเวลามากเป็นพิเศษกว่าผู้ปวยคนอื่น โดยอาศัย
                                                         ่
                   ประสบการณ์และสามัญส านึกในการดูแลผู้ปวย ซึ่งบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องการการฝึก
                   ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเพื่อสั่งสมประสบการณ์

                   การสื่อสารกับผู้ที่มารับบริการในคลินิกเด็กดี

                          เทคนิคในการสื่อสารกับเด็กที่มารับวัคซีนและผู้ปกครองควรได้รับการปรับเปลี่ยนตาม
                   อายุของเด็กกล่าวคือ เด็กเล็กจะพูดคุยสั้นๆ เพื่อเป็นการสื่อสารไปถึงผู้ปกครองทางอ้อม

                   มากกว่าที่จะเป็นการพูดคุยกับเด็กโดยตรง ในเด็กโตจะเน้นการสื่อสารกับเด็กโดยตรง
                          ข้อมูลที่แพทย์ประจ าบ้าน นักเรียนแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ มักให้

                   ความส าคัญในผู้ที่มารับบริการในคลินิกเด็กดีประกอบด้วย น ้าหนัก ส่วนสูง และเส้นรอบศีรษะ
                                                                                         ั
                   ของเด็ก อาหารของเด็ก การเจริญเติบโตและพัฒนาการ วัคซีนที่ควรได้รับ และปญหาการเลี้ยง
                   ดูเด็กโดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ เนื้อหาที่ต้องใส่ใจมีจ านวนมากท าให้ต้องใช้เวลามาก การ
                   ดูแลเด็กและพ่อแม่จึงอยู่ในรูปแบบที่แพทย์เป็นศูนย์กลางมากกว่าเด็กและพ่อแม่เป็นศูนย์กลาง

                          แพทย์อาจต้อง “ตัดใจ” ที่จะให้ข้อมูลจ านวนมากมายซึ่งไม่สามารถครอบคลุมได้อย่าง
                                                          ั
                   สมบูรณ์ แต่ควรให้ความส าคัญของประเด็นปญหาของพ่อแม่เป็นหลักและให้เวลาในการ
                                       ั
                                                                                         ั
                   ตอบสนองต่อประเด็นปญหาเหล่านั้นอย่างจริงจัง การเปิดประเด็นควรเน้นที่ตัวปญหาหรือสิ่งที่
                   ท าให้พ่อแม่เกิดความกังวลโดยใช้ค าถามปลายเปิด

                          “วันนี้มีอะไรให้หมอช่วยเหลือครับ”
                          “ดูคุณแม่ยังกังวล มีอะไรจะให้ช่วย บอกได้เลยนะคะ”


                   บรรณานุกรม
                                                                                        ่
                       1.  สุชีรา ฉัตรเพริดพราย, ชิษณุ พันธุ์เจริญ. การสื่อสารในห้องตรวจโรคผู้ปวยนอก. ใน: วี
                          ระศักดิ์ ชลไชยะ, สุชีรา ฉัตรเพริดพราย, ชิษณุ พันธุ์เจริญ, จรุงจิตร์ งามไพบูลย์,

                          บรรณาธิการ. ทักษธการสื่อสารเพื่อความเป็นเลิศด้านบริการทางการแพทย์. พิมพ์ครั้ง
                          ที่ 2. กรุงเทพฯ: ธนาเพรส, 2552:153-62.
















                                                                                                    50
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55