Page 57 - รวมเล่ม บทที่ 1-252 Ebook
P. 57
33
ทั้งในเรื่องความมี และความ ถ ้าเราตัดสินเข ้าข ้างฝ่ ายดีฝ่ าย
ไม่มีเกี่ยวกับทุกสิ่ง ถูกก็จะยังมีทะเลาะยกสองยก
ปฏิเสธทั้งความหลงผิด สามต่อไปอีก ไม่มีที่สิ้นสุด
ไปคิดว่า มีของสองสิ่ง
ตรงข ้ามกัน เช่น.. แต่ถ ้าเราตัดสินเพื่อยุติปัญหา
ถูก-ผิด บุญ-บาป โง่-ฉลาด ทั้งหมด ไม่ให ้เกิดขึ้นอีก
สัมมา-มิจฉา ขาว-ดํา เราก็ควรจะตีลูกทั้งสองคน
นิพพาน-สังสารวัฏ หรือไล่ออกจากบ ้านทั้งสอง
ความดี-ความชั่ว ฯลฯ คนเพื่อตัดปัญหาอย่างถาวร
ซึ่งทําให ้เกิดรักทางหนึ่ง ใครมองทะลุถึงจุดนี้ได ้
แล ้วไปเกลียดอีกทางหนึ่ง ก็นับว่า มีกําลังธรรม
เกิดการยึดปรุงกันยืดยาว มากพอที่จะก ้าวข ้ามพ ้น
ต่อไปไม่สิ้นสุด... ความทุกข์ได ้อย่างถาวร
ที่ว่าหลงผิด เช่น แต่ถ ้ายังติดดี ติดชั่ว
บ ้างไปยึดดี บ ้างยึดชั่ว ก็จะยังคงติดอยู่ใน
ทั้งดีและชั่วก็กัดเราพอๆกัน วังนํ้าวน แห่งสังสารวัฏ
ในฐานะที่เป็นมายา หรือวงจรปฏิจจสมุปบาท
ไม่มีตัวตนอยู่จริง ไม่เที่ยง เรื่อยไป ไม่มีที่สิ้นสุด
เดี๋ยวดีเดี๋ยวชั่ว ขึ้นลงสลับไป
จะเกิดความทุกข์ เช่น จะให ้ตัดหรือละความดี
ถ ้าใครยกย่องว่าเราดีเสมอมา นี้เป็นเรื่องยาก เพราะเป็น
แต่วันหนึ่ง กลับมาถูกนินทา ของหอมหวล ทําให ้เกิด
ก็จะกินไม่ได ้นอนไม่หลับ ปิติสุข แต่ถ ้าตัดใจเสียทีเดียว
เพราะการถือดี ก็ยังมี ก็จะพบแสงสว่างที่ปลาย
ยังยึดอัตตา อุโมงค์หรือพบ"โลกใหม่"ที่
สงบเงียบปราศจากความ
เปรียบเหมือน บ ้านหลังหนึ่ง สับสนปราศจากการ
ว่างๆสงบอยู่ มีลูกสองคน เคลื่อนไหวของจิตนิรันดร์กาล
คนหนึ่งทําดีทําถูก อีกคนทํา
ชั่วแต่มาทะเลาะวุ่นวายกันใน การตัดความชั่วนั้น เข ้าใจได ้
บ ้านหากเราเป็นพ่อจะตัดสิน แต่การตัดความดี ก็มิใช่
อย่างไร? ไปตัดอย่างเถรตรง
เพียงแต่ ในฐานะที่เรา