Page 132 - มนุษย์
P. 132
ทั้งสองไม่ทันสังเกตเลยไม่ได้มีแค่เขาทั้งคู่อยู่ที่นี่ แต่กลับมีบุคคลที่สามแอบ
ตามเข้ามาด้วย
“ข้าพยายามแล้ว ไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าออกมายังไง กุญแจเสด็จพี่ก็พกติดตัวไว้ตลอด”
องค์หญิงตัดพ้อโดยไม่ทันสังเกตว่าชายหนุ่มคู่สนทนา มีท่าทีแปลกไป
‘กริ๊ก’
เสียงวัตถุโลหะตกกระทบพื้นข้างๆองค์หญิง พอองค์หญิงหันหน้าไปก็ต้องผงะ
เพราะที่ปรากฏตรงหน้านั้น เป็นชายหนุ่มชุดสีทองผู้เป็นพระสวามี
“ที่แท้ เจ้าสองคนก็รวมหัวกันหลอกข้า หญิงร้ายชายชั่ว พวกมึงมันระย�า!”
“เดี๋ยวก่อนสิคะเสด็จพี่ เสด็จพี่ก�าลังเข้าใจผิดนะเพคะ” องค์หญิงพยายาม
แก้ตัว แต่ดูจะไม่เป็นประโยชน์
“หึ งั้นรึ โกหกหน้าด้านๆ” เขาพูดก่อนจะหยิบกุญแจที่พื้นขึ้นมา ก่อนจะเปิด
ประตูห้องขัง แล้วเหวี่ยงองค์หญิงบุปผกาเข้าไปข้างใน
“เสพสมกันให้มีความสุขไปเลย ก่อนที่จะไม่มีโอกาส หึ”เขาพูดเสร็จก็เดิน
ออกไป โดยไม่สนใจเสียงก่นด่าขององค์หญิง
“เสด็จพี่จะท�าแบบนี้กับน้องไม่ได้นะ เสด็จพี่ เสด็จพี่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”
หลังจากนั้นภาพก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ตอนนี้เหมือนผมจะมาอยู่ที่ลานประหาร
ท่ามกลางแดดจ้าที่ฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ร่ม มีบัลลังก์ซึ่งมีองค์ชายสีหราชนั่งอยู่ด้านบน ตรง
กลางของลานประหาร ทศทิศอยู่ในชุดแสดงโขน แต่ไม่เต็มยศ มีเพียงเครื่องแต่งกายที่
เป็นเสื้อแขนยาวสีเขียวปักดิ้นและเลื่อม สวมทับทรวงสีแดง ส่วนล่างสวมสนับเพลา
ถูกมัดติดอยู่กับหลักไม้กางเขน ใบหน้าของเขาเกลี้ยงเกลา ดูสะอาดสะอ้าน ท�าให้เผย
เห็นรูปลักษณ์อันงดงามอีกครั้ง เบื้องหลังของเขานั้น มีชายหนุ่มผิวคล�้า แต่งกายด้วย
ผ้าเตี่ยวสีแดง นุ่งหยักรั้งและเสื้อกั๊กสีแดงลงยันต์มหาอ�านาจ มหาเดช คาดหัวด้วย
ผ้ายันต์สีแดง ซึ่งก�าลังน�าผ้ามาผูกตาทศทิศ แล้วพนมมือขึ้นขออโหสิกรรมก่อนจะเดิน
ไปยังที่วางดาบซึ่งอยู่ด้านหลัง เขาร่ายอาคมบางอย่างและหยิบดาบขึ้นมาร�าไปมาอยู่
รอบๆทศที่อยู่ในชุดทศกัณฐ์ เสียงดนตรีจากปี่พาทย์บรรเลงอย่างโหยหวนน่าขนลุก
ก่อนที่เพชฌฆาตจะเงื้อดาบขึ้นจนสุด แล้วโลกของผมก็ดับวูบไป
.
พีรณัฐ วินิจมโนกุล 129