Page 60 - มนุษย์
P. 60
“ครืดดด ครืดดด” เสียงโทรศัพท์ของฉันสั่น ฉันรีบหยิบออกมาจากกระเป๋า
แล้วรับสายทันที
“สวัสดีค่ะ” ฉันพูดด้วยน�้าเสียงที่ฟังแล้วดูสดใส ต่างจากใบหน้าตอนนี้ที่ก�าลัง
เบื่อหน่ายคนที่มาไม่ตรงเวลา
“สวัสดีค่ะ คุณใบหม่อน พอดีว่าฉันติดธุระ จะเป็นไรไหมคะถ้าฉันขอเลื่อนนัด”
ลูกค้าพูด ด้วยน�้าเสียงเรียบๆ ราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะขอเลื่อนนัดโดยไม่คิดถึง
อีกฝ่ายว่าจะเป็นอย่างไร
“อ๋อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ แล้วแต่คุณลูกค้าสะดวกเลยค่ะ” เฮ้อ... ฉันล่ะเอือมระอา
กับคนแบบนี้จริงๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้
“ไว้จะโทรไปนัดอีกทีนะคะ ขอบคุณค่ะ” แล้วสายก็ตัดไป ฉันได้แต่นั่งเอา
มือกุมหน้าผาก แล้วจะรีบมาท�าไมเนี่ย ท�าไมคนสมัยนี้ไม่มีกาลเทศะกันบ้างเลยนะ
อยากจะท�าอะไรก็ได้ตามใจชอบงั้นเหรอ! เครียดไปคงไม่ได้อะไรขึ้นมา ว่าแล้วฉัน
ก็ยกชาขึ้นมาจิบพลางมองออกไปข้างนอกที่เป็นสวนหย่อมเล็กๆ เต็มไปด้วยดอก-
ทานตะวันก�าลังเบ่งบานมีแมลงเล็กๆ ที่บินวนไปมาเพื่อรอดูดน้�าหวานและผสมพันธุ์
ชวนให้นึกย้อนไปในอดีตตอนที่ฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง คนที่ได้มอบสีสันในชีวิตให้
กับฉัน คนที่ได้มีความทรงจ�าร่วมกัน คนที่เป็นทั้งเพื่อนและมากกว่านั้น...
วันนั้นเป็นวันที่ฉันนั่งหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ฉันนั่งมองสายฝนที่ตกลงมา
โปรยปราย พร้อมกับยื่นมือออกไปสัมผัสเม็ดฝน “แปะ แปะ” เสียงเม็ดฝนตกลงมา
กระทบกับมือน้อย ๆ ของฉัน
“นี่ๆ เราขอนั่งหลบฝนด้วยคนนะ” เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เอ่ยขึ้น
มาจากด้านหลัง ฉันจึงหันไปมองแล้วพบมาตัวเขาเปียกปอนไปด้วยฝน
“ได้สิ” ฉันตอบ พลางขยับพื้นที่ให้เขานั่งเล็กน้อย ระหว่างที่เราทั้งสองก�าลัง
สนใจในเรื่อง ของตัวเองอยู่นั้น ฉันเกิดความสงสัยขึ้นมาเลยหันไปถามเขาว่า
“นี่ๆ นายว่าเสียงฝนมันตกดังยังไงหรอ” ในใจฉันคิดว่าเขาจะคิดเหมือนฉัน
ไหมนะ
เขาตอบว่า “เราว่าแปะแปะนะ”
ฉันยิ้มกว้างจนตาหยีแล้วพูดว่า “นายคิดเหมือนฉันเลย ว่าแต่นายถือกระถาง
จิระประภา ไทยศิลป์ 57