Page 112 - คู่มือการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการสอบสวนคดีเด็กและเยาวชน

โครงการวจัยการพัฒนากระบวนการจดการและวิเคราะห์วัตถุพยานทางนิตวิทยาศาสตรในคดีเดกและเยาวชน
ั
ิ
ิ
์
็
(3) กรณีศึกษาคดีเกี่ยวกับเพศ
คณะผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างคดีจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ โดยผู้ให้ข้อมูลสำคัญ
ได้เล่าว่า นางสาว นัท (นามสมมติ) อายุประมาณ 15-16 ปี ได้พบปะพูดคุยทางสื่อสังคม

ออนไลน์กับนายโหน่ง (นามสมมติ) อายุประมาณ 18 – 19 ปี ทั้งคู่มีความรู้สึกพอใจซึ่งกัน
และกัน จึงได้มีการนัดหมายเจอกันที่ร้านเกมส์ และทั้งคู่ได้เดินทางมายังบ้านเลขที่ 5
ซอยบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของนายโหน่ง เมื่อทั้งคู่ได้มาถึงบ้าน ปรากฏว่า

ไม่มีใครอยู่บ้านแต่ประตูบ้านได้เปิดทิ้งไว้ จากนั้นทั้งคู่ได้เข้าไปในบ้านและนั่งดูโทรทัศน์กัน
และนายโหน่งได้กระทำอนาจารนางสาวนัท โดยที่ผู้เสียหายยินยอม ในบ้านดังกล่าวจนกระทั่ง
เวลาผ่านไปหลายวัน ทั้งคู่มีปากเสียงและทะเลาะกัน ฝ่ายชายได้ลงมือทำร้ายร่างกาย

ฝ่ายหญิง โดยใช้ไม้เบสบอลทุบตี ใช้มีดข่มขู่ กักขังฝ่ายหญิง ไม่ให้ออกไปไหน และให้อยู่
ดูแลตนเอง ถ้าหนีออกไปก็ขู่จะทำร้าย ในเวลาต่อไปนางสาวนัท ได้ส่งข้อความขอความ
ช่วยเหลือจากผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองได้ตามมาบ้านหลังดังกล่าวและได้เป็นผู้เปิดประตู

บ้านจึงพบผู้ต้องหาและนางสาวนัท อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อสอบถามได้ความว่าทั้งสอง
ได้มีเพศสัมพันธ์กัน จึงได้พานางสาว นัท มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
พยานหลักฐานที่สำคัญ
1) รอยบาดแผลจากลำตัวผู้เสียหาย

2) มีด
3) ไม้เบสบอล
4) รายงานผลการชันสูตรของแพทย์นิติเวช

จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้
ทำการส่งตัว นางสาว นัท ไปทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ มีผู้ปกครองของ

นางสาว นัท ให้การยืนยันว่าผู้ต้องหากระทำผิดตามข้อกล่าวหา และในชั้นสอบสวน
ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ประกอบกับรายงานผลชันสูตรของแพทย์ประจำ
ื้
โรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันว่า นางสาว นัท ได้ผ่านการร่วมประเวณีมาแล้วและพบเชออสุจิ
ในช่องคลอด ซึ่งการพิสูจน์หลักฐานนั้นต้องพิสูจน์ให้ศาลเชื่อ

คู่มือการจัดการความรู้เพื่อพัฒนากระบวนการสอบสวนคดีเด็กและเยาวชน 111