Page 29 - ลง E book - สำเนา
P. 29

รูปที่ 8 แสดงลักษณะการสึกหรอแบบล้าตัว
                                                 (ที่มา : สุรพล ราษร์นุ้ย. 2545 : 38)

                              4. การสึกหรอแบบปฏิกิริยาไทยโบเคมี บางครั้งถูกเรียกว่า การสึกหรอแบบไปๆ กลับๆ แบบ

                       เฟล็ตติ้ง จากชื่อมีความหมายเบื้องต้น คือ การที่ชิ้นงานต้องมีการขัดสี และเกิดผลพวงจากปฏิกิริยา
                       เคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น สามารถอธิบายโดยง่ายๆ จากการเกิดไทยโบคลอรี

                       แอคชั่นที่ข้อต่อโซ่ โดยที่ หากว่าข้อต่อโซ่ ปราศจากการบ ารุงรักษาหรือไม่ได้หล่อลื่น ตรงข้อต่อโซ่จะมี
                       ผล ท าให้บริเวณข้อต่อโซ่ดังกล่าว มีการสึกหรอแบบยึดติด เมื่อมีการใช้งาน จะท าให้บริเวณข้อต่อโซ่มี
                       การขับสีกัน ก่อให้เกิดเศษเหล็กตรงจุดนั้น ผนวกเข้ากับการเกิดความร้อนจากการขัดสี ซึ่งจะท าหน้าที่
                       เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมี โดยที่ผงเหล็กที่เกิดขึ้น ก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีเช่นกัน เพราะเป็นการเพิ่ม

                       พื้นที่ผิวให้ออกซิเจนในอากาศ สามารถเข้าไปท าปฏิกิริยาได้ง่าย เมื่อมีองค์ประกอบหลัก คือ เศษ
                       เหล็ก ความร้อน ความชื้น หรือไอน้ าในอากาศกับออกซิเจน ก็ท าให้ปฏิกิริยาเคมีกับออกซิเจน จะท า
                       ให้ปฏิกิริยาเคมีที่เป็นปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งจะท าให้เกิดเป็นสนิมเหล็กและสนิมเหล็กจะมีคุณสมบัติ
                       คล้ายๆ กับฝุ่นละออง ก็คือ ความแข็งแต่เปราะ และจะท าให้เกิดการขูดขีดตรงบริเวณข้อต่อโซ่ตามมา

                       จนท าให้ข้อต่อโซ่ลดขนาดลง และทนภาระไม่ได้ในที่สุด ก็จะช ารุดขาดไป นอกจากข้อต่อโซ่แล้ว
                       อาจจะเกิดกลไกการสึกหรอชนิดนี้ได้กับเพลาเฟืองแบบเคลื่อนที่ แหนบรถยนต์ และผิวนอกของแบริ่ง
                       ที่สัมผัสกับตัวเรือน เป็นต้น
                              นอกจากกลไกหลักทั้ง 4 แบบแล้ว ยังมีกลไกการสึกหรอแบบอื่นๆ เช่น การสึกหรอแบบพ่น

                       ปะทะ เกิดจากการที่ระบบที่ใช้ประโยชน์จากของเหลว ภายใต้แรงดันสูง เช่นระบบไฮดรอลิกและ
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34