Page 146 - TH Edition Ver3
P. 146

144


                       บางท่านจัดแบ่งหมวดหมู่ตาม ขันธ์ (Khandha  –  กอง)  คือ ธรรมขันธ์ ได้จัดเป็น 84,000

               ธรรมขันธ์


                                                                  ุ
                                                                                    ุ
                       ในนิทานพจน์ 18 ได้กล่าวถึงการจัดหมวดหมู่พระพทธพจน์ ไว้ว่า “พระพทธพจน์นั้น แม้จะ
                                                    ี
                                                                          ื่
               ได้บัญญัติให้มีชื่อต่าง ๆ เช่นนั้น ที่จะเป็นเพยงสมมุติตามโลกโวหาร เพอประโยชน์และสะดวกในการ
               เรียกขานตามความประสงค์ของชาวโลกเท่านั้น ส่วนอรรถสาระแห่งพระพทธพจน์นั้น ยังคงความยืด
                                                                             ุ
               ประกาศอมตธรรม เป็นอันหนึ่งเดียวกัน มิได้เปลี่ยนแปลงไปตามสมมุติโวหารนั้น ๆ ในนามเหล่านั้นที่
               นิยมเรียกกันเป็นส่วนมาก เป็นที่รู้จักกันดีอย่างแพร่หลายในวงพทธศาสนิกทั่วไปนั้นในนามว่า เตปิฎก
                                                                    ุ
               หรือ พระไตรปิฎก”


                       18  อารัมภบท ใน มหาจุฬาเตปิฏก  สุตฺตน̣ตปิฏก ทีฆนิกาเย ปาฏิวค̣คปาลิ ไทย-รฏฺเฐ มหา

                                                         ุ
               จุฬาลง̣กรณราชวิทยาลเยน ปกาสิตา อนุส̣สรณีย  พท̣ธวส̣เส ๒๕๐๐ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า พระพทธพจน์
                                                                                            ุ
                                              ื่
                                                                                       ั
               คือ พระไตรปิฎก มีคุณค่ายิ่งกว่าสิ่งอนใดเพราะเป็นเหตุปัจจัยให้สามารถบรรลุถึงผลอนสุดยอด คือ
               นิพพาน จึงเป็นสิ่งจ าเป็นที่ชาวพทธทุกคนจะพงช่วยกันเทิดทูนและรักษาไว้เป็นอย่างดี ในส่วนที่เป็น
                                           ุ
                                                      ึ
               การศึกษาพระไตรปิฎก เรียกว่า คันถธุระ และในส่วนที่เป็นการปฏิบัติ เรียกว่า วิปัสสนาธุระ และเป็น
               ส่วนที่เป็นมรดกตกทอดสืบมาจนถึงปัจจุบัน


                       เนื่องจาก พระไตรปิฎก คือ พระพทธพจน์ใช้ปาฬิ (ใช้ในภาษาไทยว่าบาลี) ซึ่งเป็นภาษาที่
                                                    ุ
                                           ู
               พระพทธเจ้าทรงเลือกภาษาที่ใช้พดในแคว้นมคธสมัยนั้น เป็นภาษาที่ทรงเทศนาสั่งสอนชาวโลก การ
                    ุ
               เรียนรู้พระไตรปิฎกต้องท าความเข้าใจความหมายของปาฬิ (ภาษาบาลี) ให้ถูกต้องก่อนที่จะเรียนรู้ให้
               แตกฉานและเชี่ยวชาญด้วยการเรียนรู้อรรถกถา ซึ่งเป็นคัมภีร์อธิบายความของพระไตรปิฎกนั้นต่อไป

               ในคู่มือฉบับนี้ เป็นการน าเสนอถึงการท าความเข้าใจความหมายของปาฬิ เป็นเบื้องต้น โดยการเสนอ
               ความหมายของแต่ละศัพท์ที่บรรจุในพระไตรปิฎก หรือ พระพทธพจน์ ในลักษณะการให้ความหมาย
                                                                   ุ
               (อาจเรียกว่า การแปลง) แบบค าต่อค า (Word by Word translation) ให้ผู้เรียนรู้ให้เข้าใจก่อน แล้ว
               ต่อจากนั้นจึงจะสามารถต่อยอดการเรียนรู้เพื่อให้แตกฉานด้วยการเรียนรู้อรรถกถาต่อไปได้



               พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค


                       พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค เป็นพระไตรปิฎกเล่มที่ 11 ของพระไตรปิฎก จ านวน
               45 เล่ม ฉบับมหาจุฬาเตปิฏก  และนับเป็นคัมภีร์เล่มที่ 13 ของทีฆนิกายของพระสุตตันตปิฎก ซึ่งพระ

               สุตตันตปิฎกทีฆนิกาย จะมี 3 เล่มคือ


                       เล่มที่ 1 พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ซึ่งเป็นพระไตรปิฎกเล่มที่ 9

                       เล่มที่ 2 พระสุตตันตปิฎก ทีฆกาย มหาวรรค จัดเป็นพระไตรปิฎกเล่มที่ 10
                       เล่มที่ 3 พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค เป็นพระไตรปิฎกเล่มที่ 11
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151