Page 148 - TH Edition Ver3
P. 148

146


                                     ุ
                                                                                     ุ
                                                   ั
               ส าคัญว่าตนก็เป็นพระพทธเจ้าได้รู้สัพพญญตญาณ (ญาณวาท) จึงท้าให้พระพทธเจ้ามาแสดง
               ปาฏิหาริย์ เหนือธรรมดามนุษย์แข่งกับตน เป็นชื่อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเอยถึงจากการที่ทรงแสดง
                                                                              ่
               ปาฎิกสูตรให้แก่ภัคควโคตรปริพาชก ณ อารามของปริพาชกนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอนุมิยนิคม แคว้นมัลละ
                                                                                                ุ
               โดยทรงปรารภค าทูลถามของภัคควโคตรปริพาชกเรื่องเจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตรลาสิกขา ไม่อยู่อทิศ
               พระผู้มีพระภาคอกต่อไปในพระสูตรนี้ ได้ทรงเล่าถึงสาเหตุที่สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ลาลิกขาให้ภัคคว
                              ี
               โคตรปริพาชกฟัง ซึ่งเป็นชื่อปาฎิกบุตร เป็น 1 ใน 3 นักบวชเปลือยที่เจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร นับถือ

               ว่าเป็นพระอรหันต์ชั้นดีทั้ง 3 คน


                   เนื้อหาที่ปรากฏในพระสูตรบทแปล


                       ในปาฎิกสูตร เนื้อหาส าคัญของพระสูตรนี้ เป็นเรื่องที่พระอานนท์ได้เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง

               ที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จประทับอยู่ที่อนุปิยนิคม ได้เสด็จเข้าไปบิณทบาตในเมืองนั้น แต่ทรงเห็นว่ายังเช้า
               อยู่ จึงเสด็จไปที่อารามของภัคควโคตรปริพาชก ซึ่งถวายการต้อนรับพระผู้มีพระภาคอย่างดีและได้ทูล

               ว่า เจ้าสุนักขัตตะลิจฉวีบุตร เมื่อก่อนบวชในพระพุทธศาสนาได้เป็นสหายของภัคควโคตรปริพาชกที่ไป
               มาหาสู่กันอยู่เสมอทั้งก่อนบวชและระหว่างบวช จนกระทั่งตอนลาสิกขาก็ได้มาหาภัคควโคตรปริพาชก

                                                                         ุ
                                                ุ
               และได้เล่าว่าตนได้ลาสิกขาแล้ว ไม่อยู่อทิศพระผู้มีพระภาค (ภควน̣ต  อท̣ทิสฺส – ค าแสดงเจดจ านงขอ
               ผู้บวชว่า “พระผู้มีพระภาคเป็นศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะปฏิบัติตามพระโอวาทของพระผู้
               มีพระภาคเจ้า”) อีกต่อไป เมื่อภัคควโคตรปริพาชกทูลถามว่าที่เจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตรมาบอกตนว่า

                                                    ี
                                   ุ
               ได้ลาสิกขาแล้ว ไม่อยู่อทิศพระผู้มีพระภาคอกต่อไปแล้ว เป็นความจริงหรือไม่ ทรงตอบว่า จริง และ
                          ั
               ทรงเล่าให้ฟงว่า เจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ซึ่งตอนเป็นพระภิกษุเคยท าหน้าที่อปัฏฐากพระองค์อยู่
                                                                                  ุ
               ระยะหนึ่งนั้น ได้มาเฝ้าเพื่อทูลลาสิกขา โดยอ้างเหตุผล 2 ประการ คือ

                       1) เพราะพระองค์ไม่ทรงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ให้ดู

                       2) เพราะไม่ทรงประกาศทฤษฎีว่าด้วยต้นก าเนิดของโลก


                       ซึ่งในกรณีนี้ พระผู้มีพระภาคได้ทรงเล่าให้ภัคควโคตรปริพาชก ฟังถึงพฤติกรรมและความคิด

               ของเจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตรที่ทูลลาสิกขาว่า


                                                    ุ
                       1)  เรื่องการบอกคืนสิกขาไม่อยู่อทิศพระองค์ ทรงถามเจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ว่าทรง
                                      ุ
                          ขอร้องให้มาอทิศพระองค์หรือไม่ เมื่อเขาทูลว่า ไม่ทรงขอร้อง จึงตรัสสรุปว่า เมื่อไม่ทรง
                          ขอร้อง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกคืน

                                                                                         ุ
                       2)  เรื่องการแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ทรงถามว่า ทรงเคยให้สัญญาหรือไม่ว่า ถ้าอยู่อทิศพระองค์
                                      ิ
                          จะทรงแสดงอทธิปาฏิหาริย์ให้ดู เมื่อเจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ตอบว่า ไม่เคยทรงให้
                          สัญญา และตนก็ไม่ได้ขอค าสัญญา จึงตรัสสรุปว่า ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกคืน ซึ่งได้ทรง
                          ถามเจ้าสุนักขัตตะ ต่อไปอกว่า พระธรรมที่ทรงแสดงจะช่วยพนทุกข์หรือไม่ ทูลตอบว่า
                                                                              ้
                                                ี
   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152   153