Page 65 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 65
ส่วนที่ ๓ หน้า ๕๓
ื่
เจ้าหน้าที่อาจวางข้อก าหนดเพอป้องกันการกระท าผิดซ้ า หรือความประพฤติเสียหาย หรือเสี่ยงต่อการกระท า
แต่หากเป็นกรณีที่เด็กไม่มีบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ให้ส่งมอบตัวเด็กไว้กับบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสม
และยินยอมรับเด็กไปปกครองดูแล หากไม่มีผู้ใดเหมาะสมและยินยอมรับเด็กไปปกครองดูแล ให้พนักงาน
ื้
ู
ั
เจ้าหน้าที่ส่งเด็กไปอยู่สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ สถานพฒนาและฟนฟ
หรือองค์กรเอกชนที่เหมาะสม
ส่านักงานต่ารวจแห่งชาติ
ผู้แทนผู้บัญชาการต ารวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการว่า จากการสอบสวน
ผู้เสียหายและผู้ปกครองของเด็กผู้กระท าความผิด ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๕
บ้านของผู้เสียหายถูกบุกรุกและถูกรื้อค้นทรัพย์สิน ซึ่งต่อมาวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ มีเด็กผู้กระท า
ความผิด ๒ คน มาสารภาพต่อผู้เสียหายว่า ได้กระท าลงไปเพราะมีบุคคลในครอบครัวมาแจ้งกับตนว่า
ผู้เสียหายเป็นบุคคลไม่ดี โดยผู้เสียหายได้สอบถามว่า มีใครมาร่วมกระท าความผิดครั้งนี้ด้วยหรือไม่
เมื่อผู้เสียหายทราบว่ามีเด็กที่ร่วมกระท าความผิดรวมทั้งหมด ๘ คน จึงได้เรียกให้ผู้ปกครองของเด็กดังกล่าว
ื่
มาเจรจาเพอชดใช้ค่าเสียหาย จนท าให้เกิดเป็นคลิปที่ผู้เสียหายและผู้ปกครองของเด็กซึ่งกระท าความผิด
ต่างฝ่ายต่างท้าทายซึ่งกันและกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว ท าให้ผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ
ื่
พนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเพอให้ทั้งสองฝ่ายได้มาเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน
เมื่อถึงก าหนดนัดในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๕ จากการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ความว่า มีเด็กผู้กระท าความผิด
จ านวน ๔ คน ส่วนอีก ๔ คนไม่ได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองของเด็ก
ผู้กระท าความผิดดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายเป็นจ านวนคนละ ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้ปกครองของเด็กผู้กระท าความผิด
ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายและได้ยอมความกัน นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีเด็กอีกจ านวน ๒ คน ที่ไม่ได้
อยู่ในกลุ่มเด็ก ๘ คนดังกล่าว เข้าไปกินกล้วยในบ้านของผู้เสียหายดังที่ปรากฏเป็นข่าว
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนในพนที่ไม่ทราบถึงขั้นตอนและกระบวนการตามที่กฎหมายก าหนด
ื้
อันส่งผลให้เป็นอุปสรรคและปัญหาในทางปฏิบัติ
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม
ิ
ผู้แทนกรมพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้ชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการว่า ก่อนการ
ประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๙) พ.ศ. ๒๕๖๕ กรมพินิจ
และคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้ตรวจสอบจ านวนของเด็กที่อยู่ในความดูแล พบว่า มีเด็กที่ต้องหาว่ากระท า
์
ความผิดอาญา แต่อายุไม่ถึงเกณฑต้องรับโทษทางอาญา จ านวน ๓๓ คน ซึ่งกรมพนิจและคุ้มครองเด็ก
ิ
และเยาวชนได้ด าเนินงานร่วมกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน ในกรณีภายหลังเมื่อได้รับการปล่อยตัวออกไปแล้ว
การติดตามดูแลเด็ก ซึ่งเด็กจ านวน ๓๓ คนดังกล่าว มีนักสังคมสงเคราะห์ติดตามและดูแลอยู่อย่างต่อเนื่อง
ิ
ิ
ทั้งนี้ เมื่อเด็กเข้าสู่กระบวนการของกรมพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะมีการสืบเสาะและพนิจ
ข้อเท็จจริงและสิ่งแวดล้อมเพื่อแสวงหาภูมิหลังทางสังคมของเด็ก อีกทั้งยังมีกระบวนการในการจ าแนกเด็ก
และเยาวชนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยได้มีการน าแบบสัมภาษณ์เพอประเมินความเสี่ยงและความจ าเป็น
ื่
(R&N) มาใช้ในการพิจารณาปัจจัยเสี่ยงและความจ าเป็นของเด็กและเยาวชนในการแก้ไขบ าบัดฟื้นฟูเพื่อลด
การกระท าผิดซ้ าของเด็กและเยาวชน