Page 64 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 64
หน้า ๕๒ ส่วนที่ ๓
ั
ผู้แทนจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ได้ชี้แจงข้อมูลต่อที่ประชุมว่า ภายหลังการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ ๒๙) พ.ศ. ๒๕๖๕ กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ก าหนดแผนเพื่อรองรับแนวทางปฏิบัติในการด าเนินการ
ื่
ตามกฎหมายดังกล่าว โดยได้จัดตั้งคณะท างานเพอก าหนดแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ต้องหาว่า
์
กระท าการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแต่อายุยงไม่ถึงเกณฑต้องรับโทษทางอาญา โดยให้คณะท างาน
ั
มีหน้าที่และอ านาจดังต่อไปนี้
๑. จัดท าแนวทางประสานงานส่งตัวเด็กที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง
สวัสดิภาพตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖
๒. จัดท าบันทึกข้อตกลงการท างานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการคุ้มครอง
สวัสดิภาพเด็กที่ต้องหาว่ากระท าการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแต่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องรับโทษทางอาญา
๓. เตรียมความพร้อมของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก ไม่ว่าจะเป็น
การเพมจ านวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งยังไม่เพยงพอและไม่ครอบคลุมทุกจังหวัด รวมถึงการส่งเสริม
ี
ิ่
ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กที่ต้องหาว่ากระท าความผิดอาญา แต่อายุไม่ถึงเกณฑ ์
ต้องรับโทษทางอาญาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของต ารวจ
ส าหรับแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กที่ต้องหาว่ากระท าความผิดอาญา แต่อายุ
ไม่ถึงเกณฑต้องรับโทษทางอาญา ตามระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติว่าด้วยวิธีการคุ้มครอง
์
สวัสดิภาพเด็กที่ต้องหาว่ากระท าการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแต่อายุยังไม่ถึงเกณฑต้องรับโทษ
์
ทางอาญา พ.ศ. ๒๕๕๕ สรุปได้ดังนี้
๑. ในกรณีที่พนักงานสอบสวนได้รับตัวเด็กที่ต้องหาว่ากระท าการอันกฎหมายบัญญัติ
์
เป็นความผิด แต่อายุไม่ถึงเกณฑต้องรับโทษทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยศาลเยาวชนและครอบครัว
และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว และมาตรา ๗๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไว้ท าการสอบสวน
ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กทราบก่อนที่จะมอบตัวเด็กให้อยู่ใน
ความปกครองดูแลของบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลหรือองค์กรซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วย หรือในกรณีที่เด็ก
ไม่มีบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลหรือองค์กรซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วย มอบตัวเด็กให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ดังกล่าว เพื่อด าเนินการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
๒. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กซึ่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
หรือในจังหวัดนั้น ๆ แล้วแต่กรณี รับตัวเด็กจากพนักงานสอบสวน เพื่อด าเนินการให้เด็กได้รับการคุ้มครอง
สวัสดิภาพต่อไป
๓. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กที่ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน
หรือได้รับตัวเด็กจากพนักงานสอบสวน ด าเนินการสืบเสาะและพินิจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเด็ก รวมทั้งให้สืบเสาะ
ถึงสาเหตุแห่งการกระท าผิด ความสัมพันธ์ในครอบครัว ความเป็นอยู่ การเลี้ยงดู อุปนิสัย ความประพฤติของเด็ก
และก าหนดแนวทางในการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมแก่เด็กนั้นด้วย โดยในการซักถามเด็ก ให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ดังกล่าวด าเนินการตามมาตรา ๓๐ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยเคร่งครัด
หากพบว่าเป็นเด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ให้พิจารณาให้การสงเคราะห์ตามความเหมาะสม
ิ
๔. ในระหว่างการด าเนินการสืบเสาะและพนิจข้อเท็จจริง หากปรากฏว่า เด็กมีบิดา มารดา
ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
พิจารณามอบตัวเด็กให้แก่บิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วยรับไปดูแล ทั้งนี้ พนักงาน