Page 23 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 23

“เทานั้นละ”
                              “ไมใชเขาหรอกที่ฉันไลออกไปอยางโหดราย” รีวิแอรนึก “มันคือความยุงยากซึ่งบางทีเขา
                       อาจจะไมใชผูรับผิดชอบ แตเขาเปนตัวแทน มนุษยคือสิ่งที่เล็กนอย ไรคา และพวกเขาก็ตองถูกสราง
                       ขึ้นมาเชนกัน หรือไมก็ตองถูกกําจัดออกเมื่อนําโชครายมา”
                              “ยังมีอีกอยางที่ผมตองการจะพูด...” ชายผูนาสงสารคนนี้หมายถึงอะไรกันเลา หมายถึงที่เขา
                       ถูกกีดกันออกไปจากความชื่นบานเกาๆ หรือ หมายถึงวาเขามีความสุขกับเสียงเครื่องมือของเขาที่
                       กระทบกับเหล็กเครื่องบิน และชีวิตของเขาถูกปลนเอาบทกวีไป...หลังจากนั้นเขาก็จําตองมีชีวิตอยู
                       หรือ

                              “ฉันเหนื่อย” รีวิแอรคิด รูสึกเปนไขขึ้นมา เขาเคาะนิ้วบนแผนกระดาษ “ฉันชอบใบหนาคนงาน
                       แกๆ คนนี้...”  รีวิแอรนึกถึงมือของเขา นึกถึงอาการเคลื่อนไหวที่สามารถทําใหมันมารวมกันได เขา
                       เพียงแตตองพูดวา “เอาละ เอาละ คุณอยูตอไปก็ได” รีวิแอรนึกภาพความราเริงแหงมือของคนงานแก
                       ๆ ซึ่งจะปรากฏขึ้นมากกวาบนใบหนาของเขาอีกนั้นกระทบใจเขาวาเปนสิ่งงดงามที่สุดทั้งมวลในโลกนี้
                       “ฉันจะฉีกบันทึกนี้ทิ้งดีไหม”
                              และในเย็นวันนั้น ก็จะเปนการกลับบานอันแจมใส จะเปนความภาคภูมิใจตอหนาครอบครัว
                       มากมายเพียงใด!
                              “พวกเขาใหคุณอยูตอไปแลวสิคะ”
                              “ทําไมละ!”  ก็ฉันนี่เองละที่เปนผูควบคุมเครื่องบินลําแรกในอารเจนตินานะ!”
                              และพวกคนหนุมๆ ซึ่งจะไมหัวเราะเยาะชื่อเสียงที่สาบสูญของคนเกาแกอีกแลว...
                              “จะฉีกมันทิ้งดีไหม”

                              เสียงโทรศัพทดัง รีวิแอรยกหูขึ้น มีความเงียบอยูสักครู จากนั้นเสียงก็กังวานกองเปนความลึก
                       ซึ่งสายลมและหวงอวกาศนํามาสูหูของมนุษย ในที่สุดก็มีเสียงคนพูด
                              “นี่คือสนามบิน ใครอยูที่นั่น”
                              “รีวิแอร”
                              “ทานผูอํานวยการครับ เครื่อง 650 อยูบนสนามและพรอมแลว”
                              “ดี”
                              “เออ ตอนนี้ทุกอยางอยูใตบังคับเรียบรอยหมดแลว แตในนาทีสุดทายเราตองเปลี่ยน
                       วงจรไฟฟาใหมครับ มีการตอผิดขึ้นที่ไหนสักแหง”
                              “เขาใจแลว ใครเปนคนตอสาย”
                              “เราจะตรวจดูครับ และขออนุญาตทานในการกระทําการเพื่อรักษาวินัยเทาที่จําเปน ความ
                       ผิดพลาดเล็กนอยในชองเครื่องมืออาจจะทําใหเกิดเหตุรุนแรงได”
                              “แนนอน”
                              “ถาหากวา” รีวิแอรคิด “เราไมไดคนไปที่ตนตอของความยุงยากเมื่อเราพบมันตั้งแตแรก ก็จะ
                       เกิดความลมเหลวขึ้น เมื่อไดพบมันตอนที่นักบินตองจุดเครื่องมือขึ้นมันก็จะกลายเปนเรื่อง
                       อาชญากรรมไป   ร็อบเล็ตควรออกไปได”
                              เสมียนซึ่งไมไดรูเห็นอะไรยังคงพิมพงานตอไป
                              “อะไรนะ”
                              “รายงานประจําปกษครับ”
                              “ทําไมมันยังไมเสร็จละ”
                              “ผม...”
                              “ผมจะตรวจดู”


                              นาแปลกที่เมื่อเรื่องมาอยูในมือที่สูงขึ้นมันก็เปนของงาย!  รีวิแอรนึกถึงเถาองุนเลื่อยซึ่ง
                       แข็งแรงพอที่จะพังโบสถลงมาได มันเปนพลังทํางานในธรรมชาติอันเดียวกับปาฝน พลังซึ่งไมตอง
                       ออกแรงอันเดียวกันซึ่งทําใหการงานอันยิ่งใหญตองหวาดผวา
                              “งานอันยิ่งใหญ...”
                              เพื่อใหตนเองมั่นใจ เขาจึงเพิ่มวา “ฉันชอบคนเหลานี้ ไมใชพวกเขาหรอกที่ฉันตอสูดวย แต
                       คือความปวยไขซึ่งพักผานพวกเขาตางหาก”
                              เขารูสึกหัวใจเตนเร็วขึ้น และทําใหเขาเจ็บ
                              “ฉันไมรูวาสิ่งที่ทําไปนี้ถูกตองหรือเปลา ฉันไมรูจักคุณคาที่แทจริงของมนุษย ไมรูจักความ
                       ยุติธรรม ไมรูจักความเศราโศก ฉันไมรูจริงๆ วาความรูสึกเบิกบานของมนุษยมีคาเพียงไร ไมรูถึงมือที่
                       สั่นเทา ไมรูจักความสงสาร ไมรูจักความเมตตา...”
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28