Page 25 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 25

10

                              เมื่อถูกปลุกขึ้นจากเสียงโทรศัพท ภรรยาของนักบินมองไปที่สามีและคิดวา “ฉันจะปลอยให
                       เขานอนตอไปอีกหนอย”

                              เธอมองดูที่แผนอกอันเปลาเปลือยของเขาอยางชื่นชม มันกลมกลึงสวยงามราวกับลําเรือ เขา
                       นอนอยูบนเตียงอันแสนสงบนี้ราวกับจอดนิ่งอยูที่ทาเรือ เธอลูบไลรอยยนนี้ เงานี้ คลื่นนี้ดวยนิ้วมือของ
                       เธอ เพื่อมิใหมีอะไรรบกวนการหลับของเขา ทําเตียงนี้ใหราบเรียบราวกับเปนนิ้วมือของพระเจาลูบไล
                       พื้นทะเล


                              เธอลุกขึ้น และเปดหนาตาง สายลมปะทะเขากับใบหนา หองนอนของพวกเขาหันหนาไปทาง
                       บัวโนสไอเรส มีคนเตนรํากันที่บานใกลๆ ลมพัดพาเสียงดนตรีเขามา เพราะนี่เปนชั่วโมงแหงความสุข
                       และการพักผอน เมืองไดเก็บงําเอาผูคนที่อยูอาศัยเอาไวใหกลายเปนปอมปราการหนึ่งแสนปอม ทุก
                       สิ่งทุกอยางสงบและปลอดภัย แตสําหรับผูหญิงคนนี้ มันดูเหมือนกับวาในไมชาก็จะมีเสียงรองเรียกดัง
                       ขึ้นวา “จับอาวุธ!” และชายเพียงคนเดียว ชายที่เปนของเธอ ก็จะตองตื่นขึ้นมาขานรับ เขายังคงนอน
                       อยู การพักของเขา เปนการสะสมที่นาเกรงขาม เปราะบาง และในไมชาก็จะไดรับมอบหมายงาน เมือง
                       ที่หลับใหลนี้ไมไดใหการปองกันแกเขาเลย มันดูจะเปนแสงที่ไรประโยชนเมื่อเขาทะยานขึ้นสูฝุน
                       ละอองระยิบระยับของมันราวกับเทพเจาหนุม เธอมองดูลําแขนอันกํายําซึ่งภายในเวลาชั่วโมงหนึ่งนี้ก็
                       จะไดรับภาระของไปรษณียยุโรป และรับผิดชอบบางสิ่งที่ยิ่งใหญ เชนชะตากรรมของเมือง ความคิดนี้
                       ทําใหเธอไมสบายใจ ชายผูนี่ ทามกลางคนนับเปนลานๆ เปนเพียงคนเดียวที่ตองเตรียมตัวสําหรับการ
                       เสียสละอันแปลกประหลาด เธอรูสึกเศรา ในไมชาเขาก็จะตองไปอยูหางไกลเกินขอบเขตของความ
                       ออนโยนของเธอ เธอไดเลี้ยงดูเขา เอาใจใสเขา ปลอบโยนเขา ไมใชเพื่อเธอเอง แตเพื่อค่ําคืนนี้ซึ่ง
                       กําลังจะไดตัวเขาไป สําหรับการดิ้นรนตอสู ความกังวล และชัยชนะ เธอไมรูเรื่องสิ่งเหลานี้ มืออัน
                       ออนโยนของเขานั้นก็เพียงแตถูกทําใหเชื่อง และงานที่แทจริงซึ่งกําหนดมาที่เขาทั้งสองนั้นก็ยังเปน
                       เรื่องลึกลับอยู เธอรูจักรอยยิ้มของเขา รูจักความชางคิดของเขาในฐานะคูรัก แตไมใชความเกรี้ยวกราด
                       ทามกลางพายุราวกับพระเจา เธอปกปองเขาไวดวยสายใยอันออนโยน ดวยดนตรี ความรัก ดอกไม แต
                       ในทุกขณะที่ตองจากกัน สายใยเหลานี้ก็ถูกผลักใหขาดออกไปโดยที่เขาไมไดดูเหมือนกับวาเสียใจ
                       เลย

                              เขาลืมตาขึ้น
                              “กี่โมงแลว”
                              “เที่ยงคืนคะ”
                              “อากาศเปนอยางไร”
                              “ฉันไมรู”

                              เขาลุกขึ้น ยืดแขนขาบิดขี้เกียจ แลวเดินตรงไปหนาตาง
                              “คงจะไมหนาวนักหรอก ลมพัดไปทางไหนนะ”
                              “ฉันจะรูไดอยางไรละคะ”
                              เขาเอนตัวออกไป “จากทิศใต ดีแลว มันจะพัดไปไกลถึงบราซิลเลย”
                              เขาเหลือบมองขึ้นไปบนดวงจันทร และรูสึกเหมือนกับเศรษฐีเงินลาน จากนั้นเขาก็มองลงไป
                       ยังเมือง พบวามันทั้งไมกรุณา ทั้งไมเรืองรอง และทั้งไมอบอุน เขาสามารถมองเห็นแสงของมันได
                       แลว...แสงที่กําลังเหือดหายไปจากพื้นทราบอันเปลาประโยชน

                              “คุณคิดถึงอะไรคะ”
                              เขากําลังคิดถึงหมอกที่เขาอาจจะบินเขาไปเจอในเขตของพอรโต แอลเลเกรอ
                              “ผมคิดถึงเรื่องยุทธวิธีเสร็จเรียบรอยแลว ผมรูวาจะผานมันไปใหพนไดอยางไร”
                              เขายังคงเอนตัวพิงกับกรอบหนาตาง หายใจเขาลึกๆ ราวกับวาเตรียมพรอมที่จะดําดิ่งลงใน
                       ทะเลดวยรางเปลือย
                              “คุณไมแมแตจะเศราเลย...คุณจะไปกี่วันคะ”
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30