Page 22 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 22

9

                              ขณะที่เขาเดินกลับไปยังหองทํางานพรอมดวยปกกระดาษในมือ รีวิแอรรูสึกถึงความเจ็บปวด
                       เสียดแทงเขาสีขางดานขวา มันทําความรําคาญใหเขามาหลายสัปดาหแลว
                              “แย...”
                              เขาพิงรางเขากับกําแพงอยูครูหนึ่ง
                              “ตลกอะไรอยางนี้!” เขานึก ขณะที่คอยๆ พยุงกายไปยังเกาอี้
                              อีกครั้งหนึ่งที่เขารูสึกเหมือนถูกลามโซ เหมือนกับสิงโตชรา ความเศราอันมากมายเขา
                       ครอบงําเขา
                              “งานหนักและความพยายามอยางแสนสาหัสตองมาจบลงเชนนี้! ฉันอายุหาสิบปแลว อายุหา
                       สิบนี่ ฉันเขาใจชีวิตดี ฉันไดตอสู ฉันไดแกปญหามามาก ตอนนี้ตองมาทรมานอยูกับบางสิ่ง จนสิ่งอื่นๆ
                       กลายเปนเรื่องไมสลักสําคัญ...ตลกเหลือเกิน!”

                              เขาหยุด เช็ดเหงื่อ และเมื่อความเจ็บปวดคลายลงแลว เขาก็เริ่มตรวจดูบันทึก
                              “ในการนําเครื่อง 301  ลงที่บัวโนสไอเรส เราไดพบวา...ผูที่รับผิดชอบจะตองถูกปรับอยาง
                       มาก”
                              เขาเซ็นชื่อ
                              “สนามบินฟลอเรียโนโพลิสไดละเลยที่จะทําตามคําแนะนํา...”
                              เขาเซ็นชื่อ
                              “เพื่อเปนการรักษาระเบียบวินัย เรากําลังจะโอนผูบังคับการสนามบิน ริชารด ออกไป
                       เนื่องจาก...”
                              เขาเซ็นชื่อ
                              ทั้งๆ ที่งวง แตเขาก็ยังรูสึกตัว ความเจ็บปวดที่สีขางทําใหความคิดกลับมาสูตัวเอง
                              “ฉันยุติธรรมไหมนะ” เขาสงสัย อยางเกือบจะขมขื่น “ฉันไมรู ถาฉันเลนงานไปหนักๆ อุบัติเหตุ
                       ก็ลดนอยลง มันไมใชปจเจกบุคคลหรอกที่รับผิดชอบ มันคือพลังอันมืดมนซึ่งจะสามารถจัดการไดก็แต
                       เมื่อทุกๆ คนถูกกระทบ ถาฉันยุติธรรมจริงๆ ละก็ เที่ยวบินกลางคืนทุกเที่ยวก็จะตองเสี่ยงตอความตาย
                       มาก”


                              เขารูสึกเหนื่อยลาที่ไดเดินทางบนถนนอันแสนยากลําบาก เขาคิดวาความสงสารเสียดายเปน
                       สิ่งดี เขาพลิกผานแผนกระดาษ ซึมลึกอยูในความคิดของตนเอง
                              “...สําหรับร็อบเล็ต วันนี้เขาไมไดเปนสวนหนึ่งในพนักงานของเราแลว”

                              เขานึกไปถึงคําสนทนาระหวางเขากับชายชราเมื่อคืนกอน
                              “คุณตองเขาใจวาตัวอยางก็ตองเปนตัวอยาง”
                              “แตทานครับ...แตทานครับ...มันเพียงแคครั้งเดียวเทานั้น ครั้งเดียวจริงๆ คิดดูเถิดครับ! ผม
                       ทํางานมาทั้งชีวิต!”
                              “ตองมีตัวอยางเกิดขึ้น”
                              “แตทานครับ!...ทานดูซิครับ!”
                              เขาดึงเอาหนังสือเกาๆ รุงริ่งเลมหนึ่งออกมา และดึงเอาหนากระดาษหนังสือพิมพเหลืองๆ ซึ่ง
                       มีภาพร็อบเล็ตตั้งทาอยูหนาเครื่องบิน รีวิแอรเห็นมือชรานั้นสั่นเทากับเกียรติยศซื่อๆ ของตน
                              “ป 1910 ครับทาน...นี่คือผมเองที่เปนผูควบคุมเครื่องบินลําแรกในอารเจนตินา! ผมไดเขารวม
                       ในการบินนี้มาตั้งแตป 1910 ทานครับ พวกเขาจะพากันหัวเราะอยูในโรงงาน!...โอ พวกเขาจะหัวเราะ
                       เยาะกันขนาดไหน!”
                              “ผมชวยในเรื่องนี้ไมได”
                              “และเด็กๆ ของผมละครับทาน เด็กๆ ของผม!”
                              “ผมบอกแลววาคุณจะอยูทํางานเล็กๆ นอยๆ ก็ได”
                              “แตเกียรติยศของผมละครับทาน เกียรติยศของผม! คิดดูเถิดครับ ยี่สิบปในการบิน คนงาน
                       เกาแกอยางผม...”
                              “ทํางานเล็กๆ นอยๆ ก็ไดนี่ ผมบอกคุณแลว”
                              “ผมไมรับครับทาน ไมครับ...และยังมีอีกอยางที่ผมตองการจะพูด –“
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27