Page 43 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 43

20

                              ตอนนี้ที่โคโมโดโร รีวาดาเวีย ไมสามารถไดยินอะไรเลย แตยี่สิบนาทีตอมา ที่หกรอยไมลไป
                       ทางเหนือ บาเฮีย บังคลาไดรับขาวครั้งที่สองวา :
                              “เริ่มลง เขาสูกอนเมฆ...”
                              จากนั้น สถานีวิทยุที่ทรีลูวก็ไดรับขอความอันพราเลือนวา
                              “...ไมเห็นอะไรเลย...”

                              การถายทอดทางคลื่นสั้นก็เปนเชนนั้น ที่หนึ่งอาจจะรับคลื่นได แตอีกที่หนึ่งจะไมไดยินเสียง
                       อะไรเลย จากนั้นโดยไมมีเหตุผลอะไรที่เห็นไดชัด ทุกสิ่งทุกอยางก็เปลี่ยนแปลงไป เครื่องบินซึ่งอยูใน
                       ตําแหนงที่ไมมีใครรู ทันทีทันใดก็แสดงตัวมันออกมาตอโลกแหงสิ่งมีชีวิต พนไปจากเวลาและสถานที่
                       และคําซึ่งแสดงใหเห็นบนปกกระดาษของสถานีวิทยุก็กลายเปนของปศาจไปเสียแลว

                              ถังเก็บน้ํามันเชื้อเพลิงหมดหรือยัง หรือวานักบินกําลังทิ้งไพใบสุดทายกอนที่เครื่องจะดับ คือ
                       พยายามติดตอกับพื้นดินกอนที่เครื่องบินจะถูกกระแทกพังไป
                              “ตั้งคําถามใหเขา” บัวโนสไอเรสสั่งทรีลูว

                                                                *


                              สถานีวิทยุดูคลายๆ กับหองทดลอง มีแถบนิเกิลและทองแดง ปุมตั้งเสียงและมัดลวด
                       พนักงานสงวิทยุในชุดกันเปอนสีขาวดูเหมือนจะกมอยูเหนือการทดลองงายๆ อยางเงียบกริบดวยนิ้วที่
                       บอบบางพวกเขาจับยายเครื่องมือไปมา สํารวจทองฟาที่เต็มไปดวยกระแสแมเหล็ก เปนหมอดูที่กําลัง
                       หยั่งหาสายแรทองคํา
                              “ไมมีคําตอบหรือ”
                              “ไมมีคําตอบ”

                              บางทีพวกเขาอาจจะจับขอความซึ่งจะเปนสัญญาณของชีวิตนี้ได ถาหากเครื่องบินและแสงที่
                       ปกของมันทะยานขึ้นทามกลางหมูดาว พวกเขาอาจจะเขาใจบทเพลงแหงดวงดาวจาริกบทนี้ก็ได

                              วินาทีเคลื่อนผานไป มันคอยๆ ซึมเหมือนกับหยดเลือด พวกเขายังคงอยูบนอากาศหรือวาการ
                       บินของพวกเขาสิ้นสุดลงแลว แตละวินาทีก็เขนฆาความหวังไป การไหลของเวลาบัดนี้ดูจะเปนการ
                       ทําลายลาง ยี่สิบศตวรรษแหงการออนโรยและความกลัว พัดตีปะทะกับโบสถ แทะเล็มและกระแทกหิน
                       อัคนีใหแตก และในที่สุดก็กลายเปนฝุนละออง บัดนี้ เวลาทั้งหมดมารวมเหลืออยูเพียงแคแตละวินาที
                       ซึ่งขูเข็ญพวกลูกเรือ

                              แตละวินาทีนําเอาบางสิ่งออกไป เสียงของฟาเบียง การหัวเราะของฟาเบียง รอยยิ้มของเขา
                       ความมืดปกคลุมพื้นดิน ความเงียบซึ่งหนักขึ้น หนักขึ้นทุกครั้ง ถมทับลงบนพวกลูกเรือเหมือนกับ
                       น้ําหนักของทะเล
                              “ตอนนี้ 1.40 น. แลว” ในที่สุดบางคนก็สังเกตขึ้นมา “ขีดจํากัดเชื้อเพลิงของพวกเขา พวกเขา
                       ไมสามารถบินตอไดอีกแลว”

                              บัดนี้ทุกสิ่งสงบนิ่ง ผูที่คอยดูหลงเหลือแตรสขมปราในปาก เหมือนกับรสของการเดินทางที่
                       สิ้นสุดลง บางอยางที่ลึกลับผานไปแลว เปนบางอยางที่ออกจะนาคลื่นเหียนอยูบาง ใจกลางของแผนนิ
                       เกิลและเสนลวดทองแดงนี้ เราไดเรียนรูถึงความเศราโศกที่แผขยายไปทั่วโรงงานที่ถูกทําลาย วัตถุ
                       ทั้งหมดดูอุยอาย ไรประโยชน ไมไดใชงาน เปนน้ําหนักของกิ่งไมที่ตายแลว
                              เราสามารถทําไดแครอใหถึงเชา

                              ในไมกี่ชั่วโมงทั่วทั้งอารเจนตินาจะกลายเปนยามกลางวัน และคนเหลานี้จะยังคงนิ่งอยูที่นั่น
                       ราวกับชาวประมงบนชายหาด คอยดูอวนที่กําลังถูกลากเขามาอยางชาๆ แสนเชื่องชา และโดยที่ไมรู
                       วามันบรรจุอะไรมา
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48