Page 38 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 38

16

                              ขณะที่เขาปนขึ้น เขาพบวามันงายที่จะแก เขาพบวามันงายที่จะแกลํากระแสอากาศโดยการ
                       ตั้งทิศทางไปยังดวงดาว อํานาจออนๆ ของมันดึงดูดเขา เขาไดตะเกียดตะกายมานานเหลือเกินเพื่อ
                       แสงสวางเพียงแวบเดียวซึ่งบัดนี้เขาจะไมยอมใหแมแตเศษเล็กเศษนอยของมันหนีไปจากเขาได เมื่อ
                       พบแสงตะเกียงโรงเตี๊ยมที่เขาถวิลหาแลว เขาก็จะไดเวียนวนลอมรอบเครื่องหมายอันนาปรารถนานี้
                       จนกวาจะตาย และเขาก็ทะยานขึ้นไปสูทองทุงแหงแสงสวางนี้

                              เขาคอยๆ วนหมุนขึ้นในบอซึ่งไดเปดออก และปดลงอีกครั้งเบื้องลางเขา ขณะที่เขาลอยขึ้น
                       กอนเมฆก็เลือนเงาคล้ําๆ ของมันไป มันพัดเขามาหาตัวเขาดวยคลื่นที่ดูบริสุทธิ์ยิ่งกวา ขาวสะอาดกวา
                       ฟาเบียงลอยขึ้นไปอยางงายดาย

                                                                        ความประหลาดใจของเขาล้ําลึก แสง
                                                                 สวางจามากเสียจนทําใหเขามึนงง เปนเวลาหลาย
                                                                 วินาทีที่เขาตองหลับตาเขาไมเคยคิดหรอกวากอน
                                                                 เมฆในยามกลางคืนจะเจิดจาไดมากเทานั้น แต
                                                                 พระจันทรที่สุกเต็มดวง และหมูดาวก็ไดเปลี่ยนมัน
                                                                 ใหเปนคลื่นอันฉายฉาน


                                                                        เมื่อบายหนาไปอีกครั้ง ขณะที่เครื่องบิน
                                                                 โผลออกมาก็ไดพบกับความสงบซึ่งดูนามหัศจรรย
                                                                 ยิ่ง ไมมีแมแตคลื่นสักลูกที่จะมากระแทกเขา และ
                                                                 เขาก็กําลังจะเขาไปในทองน้ําที่กําบังเหมือนกับ
                                                                 เรือใบที่กําลังแลนผานสันสะพานยาว เขาไดพบที่
                       หลบภัยในจุดของทองฟาที่ยังไมไดรับการสํารวจราวกับอานของเกาะแหงความสุขที่หลบซอนอยู
                       เบื้องลางเขาในความลึกเกาพันฟุต พายุกอรูปสรางโลกอีกโลกหนึ่งขึ้น ถูกกระหน่ําดวยสายลม สายฝน
                       และแสงฟาแลบ แตเบื้องหนาทางไปสูดวงดาวนั้น เปลี่ยนเปนผิวหนาแหงผลึกหิมะ


                              ฟาเบียงรูสึกราวกับวาเขามาถึงที่กักขังอันแปลกประหลาด เพราะทุกสิ่งกลับกลายเปนเรืองรอง
                       สวาง – มือของเขา เสื้อผาชุดนักบินของเขา ปกของเขา แสงสวางไมไดหลั่งไหลมาจากดวงดาว แต
                       มันกอตัวขึ้นจากเบื้องลางมากกวาและขึ้นมาหอมลอมเขาไวดวยกระแสสีขาวอันไมมีที่สิ้นสุดนี้ กอน
                       เมฆเบื้องลางเขาสะทอนแสงหิมะจากดวงจันทรออกมาเหมือนกับสิ่งที่กอตัวอยูขางซายและขางขวา
                       ราวกับหอคอย ทั้งสองกําลังลอยผานกระแสสวางสีขาวนวล เมื่อฟาเบียงมอบไปรอบๆ ก็เห็นคนสงวิทยุ
                       กําลังยิ้ม
                              “เราทําไดดีขึ้น!” เขารอง

                              แตเสียงนั้นก็หายไปในเสียงคํารามของการบิน มีเพียงรอยยิ้มเทานั้นที่ผานออกมาได “ฉันคง
                       จะบาที่ยิ้ม” ฟาเบียงนึก “เราหลงทาง!”

                              มือมืดนับพันปลอยจากที่ยึดเขาไว พันธนาการของเขาถูกผอนคลายออก เหมือนนักโทษที่
                       ไดรับอนุญาตใหออกไปเดินชมดอกไมสักครู


                              “สายเกินไป” ฟาเบียงคิด เขากําลังทองไปในกลุมดวงดาวล้ําคาอันหนาแนน ภายในโลกซึ่ง
                       ไมมีอะไร ไมมีอะไรเลยที่มีชีวิตนอกจากเขา ฟาเบียง และเพื่อนของเขา คลายๆ กับพวกโจรในนิทาน
                       ที่ปลอดภัยอยูในหองเก็บสมบัติล้ําคาซึ่งไมมีทางหนีรอดออกไปได ทามกลางอัญมณีที่จับแข็ง ทั้ง
                       สองทองไป ร่ํารวยอยางมหาศาล แตก็ถึงวาระแหงเคราะหกรรม
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43