Page 606 - Full paper สอฉ.3-62
P. 606
ได้ข้อมูลที่มีความเที่ยง (Validity) และน่าเชื่อถือ (Reliability) ได้ก าหนดไว้คือ 80/80 ซึ่งสอดคล้องกับ ชัยยงค์ พรหมวงศ์
มากขึ้น (2555, หน้า 490) กล่าวว่า การทดสอบประสิทธิภาพของแบบ
5.4.2 การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ฝึกเป็นการน าแบบฝึกไปทดลองใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้มี
มาตรฐานรายปัจจัย ก่อนการเรียนรู้ ระหว่างการเรียนรู้ และ ประสิทธิภาพ แล้วน าไปทดสอบจริง หลังจากนั้นน าผลที่ได้มา
หลังการเรียนรู้ ปรับปรุงแก้ไชแล้วจึงผลิตออกมาเป็นจ านวนมาก ก่อนที่จะ
5.4.3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการเรียนรู้ของ น าไปใช้ผู้สอนต้องมั่นใจว่า แบบฝึกนั้นมีประสิทธิภาพในการ
ผู้เรียน ก่อนและหลังเรียนโดยใช้การเรียนแบบกลุ่มร่วมมือ ช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จริง ทั้งนี้เพราะแบบฝึกจะช่วย
5.5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สร้างสมรรถภาพการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเปลี่ยนพฤติกรรมไป
สถิติเชิงพรรณนา โดยใช้สถิติในการกระจายจ านวนและ ตามที่ผู้สอนมุ่งหวังไว้
อัตราส่วนร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบน 7.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนเรียนและ
มาตรฐาน (Standard Deviation) และ t-test หลังเรียนวิชาการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ โดยการใช้
การเรียนแบบกลุ่มร่วมมือ จากการวิจัยพบว่าคะแนนของ
6. ผลการวิจัย แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) มีค่าเฉลี่ย 3.18 ส่วนเบี่ยงเบน
จากการศึกษาเพื่อหาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและ มาตรฐาน 1.83 และคะแนนของแบบทดสอบหลังเรียน (Post -
พฤติกรรมการท างานกลุ่ม ควบคู่กับการฝึกปฏิบัติ โดยใช้การ test) มีค่าเฉลี่ย 4.83 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.75 สรุปได้ว่า
เรียนแบบกลุ่มร่วมมือของนักศึกษาในรายวิชาการสื่อสาร ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากเรียนโดยใช้การเรียนแบบกลุ่ม
การตลาดแบบบูรณาการ โดยสรุปได้ดังนี้ ร่วมมือในการเรียนรายวิชาการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ
6.1 ประสิทธิภาพของบทเรียนในการสอนรายวิชา ผลคะแนนเฉลี่ยหลังการเรียน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน
การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ โดยคะแนนเฉลี่ยของ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับ สาขาวิชา
ประชากรที่ได้เรียน โดยการใช้การเรียนแบบกลุ่มร่วมมือ ได้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราช
คะแนนเฉลี่ยจากการท าแบบฝึ กหัดระหว่างเรียน และ ภัฎล าปาง พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถใน
แบบทดสอบท้ายบทเรียน คือ 83.50/95.00 สูงกว่าเกณฑ์ที่ได้ การท างานร่วมกับผู้อื่นของนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 โดยใช้การเรียน
ก าหนดไว้คือ 80/80 แบบกลุ่มร่วมมือ ในวิชาการตลาดเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
6.2 การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ของผู้เรียนและ ระหว่างเรียนผู้วิจัยให้นักศึกษาท าแบบทดสอบก่อนและหลัง
พฤติกรรมการท างานกลุ่ม ก่อนเรียนและหลังเรียนรายวิชาการ เรียน ประเมินการปฏิบัติการทดลองและการน าเสนอผลงาน
สื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ โดยการใช้การเรียนแบบกลุ่ม หน้าชั้นเรียน ท าแบบทดสอบย่อยในแต่ละหัวข้อ สัมภาษณ์
ร่วมมือ วิเคราะห์ข้อมูลหาค่า t-test แบบ Dependent Sample ผล อย่างไม่เป็นทางการ นักศึกษาประเมินตนเองและเพื่อนในการ
คะแนนเฉลี่ยหลังการเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนอย่างมี ท างานเป็นกลุ่ม และท าสังคมมิติเกี่ยวกับการท างานกลุ่มก่อน
นัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และหลังการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือ ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษา
ที่มีคะแนนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 มีจ านวนเพิ่มขึ้นจาก
7. อภิปรายผล 8 คนเป็น 43 คน แตกต่างจากคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญ
ผลการวิจัยครั้งนี้มีประเด็นที่ควรน ามาอภิปราย ดังต่อไปนี้ ทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนมีทักษะปฏิบัติการ ทักษะการ
7.1 ประสิทธิภาพของบทเรียนในการสอนรายวิชา น าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน และมีคะแนนทดสอบท้ายคาบ
โปรแกรมส าเร็จรูปทางสถิติเพื่องานวิจัย โดยคะแนนเฉลี่ยของ เรียนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประชากรที่ได้เรียน โดยการใช้กระบวนการกลุ่มควบคู่กับการ
ฝึกปฏิบัติได้คะแนนเฉลี่ยจากการท าแบบฝึกหัดระหว่างเรียน
และแบบทดสอบท้ายบทเรียน คือ 83.50/95.00 สูงกว่าเกณฑ์ที่
4
588