Page 728 - Full paper สอฉ.3-62
P. 728

พบว่าการเจริญเติบโตของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนครเมื่ออายุ  ข้าวสูงขึ้นทั้งนี้ การใส่ถ่านชีวภาพลงไปในดินจะช่วยปรับปรุง
             40 วัน ทั้งความสูงต้นข้าว และจ านวนต้นต่อกอ ของข้าวเหนียว  คุณสมบัติของดิน ให้ดินกักเก็บคาร์บอนลงในดินและปรับปรุง

             พันธุ์สกลนครที่ได้รับถ่านชีวภาพทั้ง 5 อัตรา ไม่มีความ  สภาพทางกายภาพของดิน  สอดคล้องกับงานวิจัยของ อารีย์
             แตกต่างทางสถิติ (p > 0.05) แต่อย่างใด            คล่องขยัน (2555)[1]  ที่กล่าวไบโอชาร์คือถ่านที่ใช้ประโยชน์

                4.1.2 ด้านผลผลิต                              เพื่อ เนื่องจากคุณสมบัติของถ่านชีวภาพ คือมีรูพรุนตาม
                1) จ านวนรวงต่อต้นของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนคร ที่ได้รับ  ธรรมชาติเมื่อใส่ลงในดินจะช่วยการระบายอากาศ การซึมน ้า
             ถ่านชีวภาพทั้ง 5 อัตรา ไม่มีความแตกต่างทางสถิติ (p >.05) แต่  การอุ้มน ้า ดูดยึดธาตุอาหาร เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ ลดความ
             มีแนวโน้มว่าจ านวนรวงต่อต้นของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนคร  เป็นกรดของดิน [2] กล่าวว่า ถ่านไบโอชาร์ที่ได้ประโยชน์

             ในการการใส่ถ่านชีวภาพ T5ใส่ถ่านชีวภาพ 12 กิโลกรัม มี  ไม่ใช่แค่น ากลับมาเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มได้เท่านั้น เพราะจากการ
             แนวโน้มว่ามีจ านวนรวงต่อต้นมากกว่าวิธีการอื่นๆ   น าไปตรวจสอบวิเคราะห์ พบว่ามีส่วนผสมคาร์บอนและธาตุ

                2) จ านวนเมล็ดต่อรวงของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนคร พบว่า  โพแทสเซียมสูงสามารถน ามาใช้เป็นวัสดุปลูกผัก ช่วยเพิ่มธาตุ
             มีจ านวนเมล็ดต่อรวง เฉลี่ย 148.23 เมล็ด พบว่ามีความแตกต่าง  อาหารในดิน ลดการใช้ปุ๋ ยเคมีบ ารุงต้นไม้ เพราะมีคุณสมบัติ
             กันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ  ( p < .05) การใส่ถ่านชีวภาพ T2  ช่วยปรับปรุงดิน เก็บกักน ้าได้ดี ท าให้ดินมีความชุ่มชื้น

             ใส่ถ่านชีวภาพจ านวน 3 กิโลกรัม มีจ านวนเมล็ดสูงกว่าวิธีการ  กลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ใต้ดิน เมื่อดินอุดม
             อื่นๆ                                            สมบูรณ์จะท าให้พืชเดินรากหากินใต้ดินได้ง่าย การดูดซับ

                3) น ้าหนักเมล็ดต่อรวงของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนครพบว่า  อาหารดีขึ้น ส่งผลให้ล าต้นพืชสมบูรณ์แข็งแรง และในถ่านไบ
             มีน ้าหนักเมล็ดต่อรวง เฉลี่ย 5.93 เมล็ด ไม่มีความแตกต่างกัน  โอชาร์ยังมีสารละลายฟอสเฟต และซิลิกา ซึ่งใช้ป้องกันแมลง
             ทางสถิติ (p > .05)  แต่มีแนวโน้มว่า T5 ใส่ถ่านชีวภาพจ านวน  ศัตรูพืชได้ ท าให้เกษตรกรไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ ย-เคมีภัณฑ์และที่
             12 กิโลกรัมมีแนวโน้มให้น ้าหนักเมล็ดต่อรวงสูงกว่าวิธีการ  จังหวัดนครพนม นายเกษม รักสุจริต เกษตรจังหวัดนครพนม

             อื่นๆ                                            เปิดเผยว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดนครพนมประกอบ
                4) ผลผลิตของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนคร มีน ้าหนักเฉลี่ย  อาชีพเกษตรกรรม และหลายๆคนมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น

             4.28 กิโลกรัมต่อหน่วยทดลอง  พบว่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ  เนื่องจากสภาพดินขาดความอุดมสมบูรณ์เพราะมีการใช้
             แต่มีแนวโน้มว่า การใส่ถ่านชีวภาพช่วยให้ได้ผลผลิตสูงกว่า  ประโยชน์จากดินที่ไม่ถูกวิธีและต้องน าเอาสารเคมีเข้ามาเป็น
             การไม่ใส่ถ่านชีวภาพ โดยวิธีการที่ 5 ใส่ถ่านชีวภาพจ านวน 12  ตัวช่วย ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตแล้ว ยังส่งผลต่อ

             กิโลกรัม ให้ผลผลิตค่อนข้างสูงกว่าวิธีการอื่น เฉลี่ย 4.53  สุขภาพด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตร
             กิโลกรัมต่อหน่วยทดลอง ส่วนวิธีการที่ 1 ซึ่งไม่ใส่ถ่านชีวภาพ  ได้มีปุ๋ ยในการปรับปรุงบ ารุงดินไว้ใช้งาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายและ

             ให้ผลผลิตน้อยกว่าวิธีการอื่นๆ ให้ผลผลิต 3.90 กิโลกรัมต่อ  เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้สามารถแข่งขันใน
             หน่วยทดลอง                                       ตลาดได้ จังหวัดนครพนมโดยส านักงานเกษตรจังหวัด
             4.2. วิจารณ์ผลการทดลอง                           นครพนม ได้เล็งเห็นว่าถ่านไบโอชาร์ (biochar) นั้นมีคุณสมบัติ
                4.2.1 การเจริญเติบโตของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนครเมื่อใส่  ที่ดี ซึ่งเมื่อน าไปปรับปรุงสภาพดินแล้ว จะท าให้ดินมีรูระบาย

             ถ่านชีวภาพ 5 ระดับ ลงในแปลงปลูกพบว่าไม่มีความแตกต่าง  อากาศมากขึ้น สามารถอุ้มน ้าได้ดีขึ้น ดูดซับแร่ธาตุ ที่เป็น
             ทางสถิติ ทั้งด้านความสูงต้น และ จ านวนต้นต่อกอ   อาหารส าคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ดี ทั้งยังลดความเป็น

                4.2.2 ผลผลิตของข้าวเหนียวพันธุ์สกลนคร จ านวนรวงต่อ  กรดเป็นด่างของดิน ที่ส าคัญคือเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่เป็น
             ต้น  น ้าหนักต่อรวง และผลผลิตข้าว  แม้จะพบว่าไม่มีความ  ประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงได้จัดการฝึกอบรม
             แตกต่างทางสถิติแต่มีแนวโน้มว่า การใส่ถ่านทุกอัตรา มีผลท า  ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับถ่านไบโอชาร์(biochar)ให้กับตัวแทน

             ให้ข้าวมีองค์ประกอบผลผลิต อันได้แก่ จ านวนรวงต่อกอ  เกษตรกรจ านวน 500 คน จาก 12 อ าเภอ เพื่อน าไปถ่ายทอดต่อ
             น ้าหนักต่อรวง สูงกว่าการไม่ใส่ถ่าน จึงส่งผลให้ผลผลิตเมล็ด  ยังเพื่อนเกษตรกรด้วยกัน[3]



                                                              5
                                                                                                              710
   723   724   725   726   727   728   729   730   731   732   733