Page 86 - Proceeding of Atrans Young Researcher's Forum 2019_Neat

“Transportation for A Better Life:
Smart Mobility for Now and Then”

23 August 2019, Bangkok, Thailand

ทดลอง กลุ่มทดลองส่วนใหญ่มีการรู้เท่าทันสื่อในการป้องกันอุบัติภัย ทดลองมีแรงจูงใจในการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจร
ระดับต ่า ร้อยละ 51.28 ( X = 14.44, S.D. = 2.10) หลังการทดลอง กลุ่ม รถจักรยานยนต์ สติ๊กเกอร์ไลน์สามารถท าให้กลุ่มทดลองเกิดความ
ทดลองส่วนใหญ่มีการรู้เท่าทันสื่อในการป้องกันอุบัติภัยระดับสูง ร้อยละ ตระหนักถึงการเคารพกฎหมายจราจรในการขับขี่รถจักรยายนต์ เช่น เมา
94.87 ( X =27.4, S.D. = 2.09) และกลุ่มเปรียบเทียบ ก่อนการทดลอง สุราไม่ขับขี่ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับขี่ด้วย

กลุ่มเปรียบเทียบส่วนใหญ่การรู้เท่าทันสื่อในการป้องกันอุบัติภัยระดับต ่า ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง การท าใบอนุญาตขับขี่
ร้อยละ 76.92 ( X = 12.87, S.D. = 2.43) หลังการทดลอง กลุ่มเปรียบเทียบ รถจักรยานยนต์ ฯลฯ และยังส่งผลให้กลุ่มทดลองมีพฤติกรรมในการขับขี่
ส่วนใหญ่มีการรู้เท่าทันสื่อในการป้องกันอุบัติภัยระดับต ่า ร้อยละ 89.74 ( รถจักรยานยนต์ที่ปลอดภัยและเหมาะสม
X =12.23, S.D. = 1.80)
8. ผลการศึกษาระดับพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการป้องกัน 5. ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย
อุบัติภัยจราจรจากรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษาภายใน 1. ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้
กลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ก่อนและหลังการทดลอง พบว่า กลุ่ม 1.1 การศึกษาครั้งนี้ท าให้ทราบว่าวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา
ทดลอง ก่อนการทดลอง กลุ่มทดลองส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการปฏิบัติตน ส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์
ในการป้องกันอุบัติภัยระดับปานกลาง ร้อยละ 58.97 ( X = 61.03, 1.2 ควรมีหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบการอนุมัติให้มีและใช้
S.D. = 6.33) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการ ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ในระดับอ าเภอ
ปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยระดับสูง ร้อยละ 100 ( X =118.85, 1.3 ให้ความรู้แก่ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น
S.D. = 5.41) และกลุ่มเปรียบเทียบ ก่อนการทดลอง กลุ่มเปรียบเทียบส่วน นอกระบบการศึกษา เกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ปลอดภัย
ใหญ่มีพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยระดับต ่า ร้อยละ 1.4 ควรมีมาตรการในระดับชุมชนและเครือข่ายในการดูแล
76.92 ( X = 56.13, S.D. = 8.08) หลังการทดลอง กลุ่มเปรียบเทียบส่วน วัยรุ่นนอกระบบการศึกษาในด้านการขับขี่รถจักรยายนต์และในด้านอื่นๆ

ใหญ่มีพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยระดับต ่า ร้อยละ 2. ข้อเสนอแนะในการท าวิจัยครั้งต่อไป
92.31 ( X =53.74, S.D. = 5.72) 2.1 ควรศึกษาเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมและปัจจัยที่ส่งผลต่อการ
9. ความพึงพอใจในการใช้สติ๊กเกอร์ไลน์ “ขับขี่ปลอดภัย” ขับขี่ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา
เพื่อสร้างเสริมการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจร 2.2 ควรศึกษาข้อมูลอัตราการเกิดอุบัติเหตุในวัยรุ่นนอกระบบ
รถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา พบว่า หลังการทดลอง การศึกษาเพื่อท าสถิติเป็นรายปี
กลุ่มทดลองมีความพึงพอใจในการใช้สติ๊กเกอร์ไลน์ “ขับขี่ปลอดภัย” 2.3 ศึกษาการมีใบอนุญาตขับขี่ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา
เพื่อสร้างเสริมการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจร เพื่อหามาตรการในการควบคุมก ากับให้วัยรุ่นนอกระบบการศึกษาทุกคน
รถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา มีการประเมินความพึง ต้องตระหนักถึงความส าคัญของการมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์
พอใจในการใช้สติ๊กเกอร์ไลน์ “ขับขี่ปลอดภัย” ในด้านรูปลักษณ์ของ 2.4 ในการให้ความรู้แก่วัยรุ่นนอกระบบการศึกษาควรเน้น
สติ๊กเกอร์ไลน์ ความพึงพอใจอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 100 ด้านความมี การปฏิบัติเพื่อเป็นการน าความรู้ไปปฏิบัติในชีวิตประจ าวัน
เอกลักษณ์ของสติ๊กเกอร์ไลน์ ความพึงพอใจอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 100
ด้านความหลากหลายของสติ๊กเกอร์ไลน์ ความพึงพอใจอยู่ในระดับสูง 6. กิตติกรรมประกาศ
ร้อยละ 100 และด้านคุณภาพของข้อมูลสติ๊กเกอร์ไลน์ ความพึงพอใจอยู่ งานวิจัยฉบับนี้ส าเร็จลงได้ด้วยดี ผู้วิจัยจึงขอขอบพระคุณ
ในระดับสูง ร้อยละ 100 โดยมีการส่งสติ๊กเกอร์ไลน์และความรู้ต่างๆ เข้า คณาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ทุกท่าน ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความ
Line Group Application “วัยซ่าส์...ขับขี่ปลอดภัย” ส่งทุกวันๆ ละ 3 เวลา ปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะ
(08.00, 12.00, 18.00) โดยเริ่มจัดส่งในการท ากิจกรรมครั้งที่ 2 รวม แพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่สนับสนุนทุน
ระยะเวลาในการจัดส่งสติ๊เกอร์ไลน์ 11 สัปดาห์ เพื่อเสริมสร้างความรอบ จัดท าวิทยานิพนธ์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และ บริษัท เอ.พี.
รู้ด้านสุขภาพในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์ จึง ฮอนด้า จ ากัด ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการใช้โปรแกรมในการด าเนิน
ส่งผลให้วัยรุ่นนอกระบบการศึกษา อายุ 15 – 19 ปี กลุ่มทดลองมีความพึง กิจกรรมในการวิจัย วัยรุ่นนอกระบบการศึกษา อ าเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ที่
พอใจในการใช้สติ๊กเกอร์ไลน์ “ขับขี่ปลอดภัย” อยู่ในระดับสูง เนื่องจาก ได้ให้ความอนุเคราะห์ในการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี และหน่วยงาน
สติ๊กเกอร์ไลน์มีประสิทธิภาพสามารถสื่อสารให้กลุ่มทดลองเกิดความ ต่างๆ ที่มีส่วนให้งานวิจัยนี้ส าเร็จลุล่วงด้วยดี
เข้าใจในข้อความบนสติ๊กเกอร์ไลน์ และยังเสริมสร้างก าลังใจให้กลุ่ม

61