Page 81 - Proceeding of Atrans Young Researcher's Forum 2019_Neat
P. 81

“Transportation for A Better Life:
                                                                                                                       Smart Mobility for Now and Then”

                                                                                    23 August 2019, Bangkok, Thailand

             ได้รับความรู้และแนวทางการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยจาก  กลุ่มเปรียบเทียบ 39 คน ใช้วิธีการค านวณขนาดตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบ
             การจราจรรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องและเหมาะสม        ค่าเฉลี่ยประชากรสองกลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน ค านวณขนาดตัวอย่างโดย
             1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย                      ใช้สูตรดังนี้ (อรุณ จิรวัฒน์กุล,2547)
             1.2.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป                                                         n/group =  2 (  +  ) 2                                   (1)
                                                                                    2
                    1. เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมสุขศึกษาร่วมกับการใช้                  ( 2 − 1 )
             แอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกัน  n/group = 31
             อุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษา   ปรับขนาดกลุ่มตัวอย่างเพื่อป้องกันการสูญหายหรือมีการถอนตัว (Drop

                    2. เพื่อประเมินความพึงพอใจในการใช้สติ๊กเกอร์ไลน์เพื่อ  out) ร้อยละ 10 ได้กลุ่มตัวอย่าง จ านวน 78 คน โดยเป็นกลุ่มทดลอง 39
             สร้างเสริมการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจร  คน และกลุ่มเปรียบเทียบ 39 คน
             รถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษาในกลุ่มทดลอง   เกณฑ์การคัดเข้า (Inclusion Criteria) ดังนี้
             1.2.2 สมมติฐานการวิจัย                                  1. เป็นวัยรุ่นนอกระบบการศึกษาที่มีอายุ 15-19 ปี ทั้งเพศชาย
                    1. ภายหลังการทดลองโปรแกรมสุขศึกษาร่วมกับการใช้  และเพศหญิง ที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง
             แอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกัน  2. เป็ นผู้ที่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจ าวันและสามารถ
             อุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษากลุ่ม  เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
             ทดลองมีคะแนนเฉลี่ยมากกว่าก่อนการทดลอง                   3. เป็นผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นประจ าอย่างน้อยสัปดาห์ละ
                    2. ภายหลังการทดลองโปรแกรมสุขศึกษาร่วมกับการใช้  4 วัน
             แอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกัน  4. เป็นผู้ที่มีความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ปกติ
             อุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบการศึกษากลุ่ม  5. เป็นผู้ที่ขับขี่รถจักรยายนต์เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
             ทดลองมีคะแนนเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ               6. เป็นผู้ที่สวมหมวกนิรภัยในการขับขี่รถจักรยายนต์ไม่เคย
                                                              สวมเลยหรือสวมเป็นบางครั้ง
             2. ระเบียบวิธีวิจัย                                     7. เป็นผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือแบบ Smartphone และใช้ Line
                                                              Application
             2.1 รูปแบบการวิจัย                                      8. เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าร่วมการศึกษาและสามารถเข้าร่วม
                    การศึกษาครั้ งนี้ เป็ นการวิจัยกึ่ งการทดลอง (Quasi-  กิจกรรมได้จนสิ้นสุดการทดลอง
             experimental design) แบบสองกลุ่ม คือกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ   9. ผู้ปกครองอนุญาตและยินดีให้กลุ่มตัวอย่างเข้าร่วม
             วัดก่อนและหลังการทดลอง (two-group pretest-posttest design with   ด าเนินการวิจัยตลอดระยะเวลาในการศึกษา
             comparison group) แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง (Experimental group) และกลุ่ม  2.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
             เปรียบเทียบ (comparison group) โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมสุข  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 2 ส่วน ที่ส าคัญคือ
             ศึกษาร่วมกับการใช้แอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้าน  เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง และเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ซึ่ง
             สุขภาพในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่น  มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
             นอกระบบการศึกษา ด าเนินการทั้งสิ้น 12 สัปดาห์ โดยจัดกิจกรรมใน  2.3.1 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ โปรแกรมสุขศึกษา
             วันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนกลุ่มเปรียบเทียบไม่ได้รับ  ร่วมกับการใช้แอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพใน
             โปรแกรมสุขศึกษาฯ จากผู้วิจัยแต่ได้รับการเรียนการสอนเรื่องการ  การป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นนอกระบบ
             ป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข  การศึกษา
             ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลในพื้นที่ตามปกติ และได้                     2.3.2 สติ๊กเกอร์ไลน์ “ขับขี่ปลอดภัย” จ านวน 24 ข้อความ มี
             ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์  ขั้นตอนการจัดท าดังต่อไปนี้
             มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ HE612367 ให้ไว้ ณ วันที่ 20 มีนาคม    2.3.2.1 ศึกษาวิธีการผลิตสื่อสติ๊กเกอร์ไลน์และ
             พ.ศ.2562                                         ก าหนดเนื้อหาให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ โดยผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
             2.2 กลุ่มตัวอย่าง                                คุณภาพของเครื่องมือด้านเนื้อหาได้ตรวจสอบความตรงด้านเนื้อหาและ
                    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็ นวัยรุ่นนอกระบบ  ความถูกต้อง
             การศึกษา อายุ 15 - 19 ปี อ าเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการ     2.3.2.2 จัดท าสติ๊กเกอร์ไลน์เพื่อเสริมสร้างการ
             ใช้รถจักรยานยนต์ จ านวน 78 คน จ าแนกเป็นกลุ่มทดลอง 39 คน และ
                                                              ปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรรถจักรยานยนต์


                                                           56
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86