Page 44 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 44

34



                                            2) การขยายและการเชื่อมประสาน เน้นการสร้างการรวมกลุ่มให้เกิดองค์กร
                       ชุมชนที่เข้มแข็ง การร่วมแก้ปัญหา การเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีปฏิสัมพันธ์ พัฒนามาจากฐานความรู้เดิม
                       และสร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยเชื่อมโยงภูมิปัญญาเดิมและวิทยาการสมัยใหม่
                                            3) การด ารงอยู่ เน้นให้สมาชิกของเครือข่ายมีการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้

                       อย่างต่อเนื่อง พัฒนาศักยภาพของสมาชิกในการเรียนรู้ ปฏิสัมพันธ์และร่วมแก้ปัญหา ตลอดจนมีการ
                       ขยายพื้นที่เครือข่ายที่สนับสนุนกิจกรรม โดยมีการวางแผนอย่างมีเปูาหมาย
                                            หากพิจารณาถึงประสบการณ์การท างานของนักพัฒนาในการกระตุ้นหรือ
                       ส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายจากประสบการณ์ของศูนย์สังคมพัฒนาท่าแร่-หนองแสง จังหวัดสกลนคร พบว่า

                       มีกระบวนการในการเสริมสร้างเครือข่าย โดยเริ่มจากการส่งอาสาสมัครเข้าไปศึกษาชุมชนและเตรียม
                       ชุมชนด้วยการให้การศึกษาอบรมในเรื่องแนวทางการท างานของศูนย์ฯ โดยเน้นการท างาน แนวศาสนา
                       วัฒนธรรมที่ถือ “คน” เป็นศูนย์กลางของการพัฒนา มิใช่เน้นที่ “วัตถุ” และเมื่อศูนย์ฯ พิจารณา
                       เห็นว่า กลุ่มมีศักยภาพและความพร้อมจึงตัดสินใจให้การสนับสนุนกิจกรรมตามความต้องการของ

                       กลุ่ม โดยชาวบ้านต้องมีส่วนสมทบในการท ากิจกรรมอย่างกรณีกลุ่มธนาคารข้าว ชาวบ้านต้องร่วมกัน
                       สร้าง “ฉางข้าว” เสียก่อน ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ความร่วมมือและน้ าใจของชาวบ้าน ตลอดจนการเลือกสรร
                       บุคคลที่จะมาเป็นคณะกรรมการรับผิดชอบการด าเนินงานของกลุ่ม และถ้าหากข้าวของกลุ่ม

                       ไม่เพียงพอ ชาวบ้านสามารถขอรับการสนับสนุนจากศูนย์ฯ ได้ และเมื่อกลุ่มและชาวบ้านเติบโตขึ้นใน
                       ระดับหนึ่ง ศูนย์ฯ จึงเริ่มปรับบทบาทหน้าที่ของตัวเองมาเป็นผู้กระตุ้นส านึกในการช่วยเหลือชาวบ้าน
                       ที่ด้อยโอกาสกว่าให้กับกลุ่ม โดยผ่านการพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเยี่ยมชมงาน ตลอดจน
                       งานบุญต่างๆ นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังท าหน้าที่ประสานและเชื่อมโยงระหว่างชาวบ้านกับองค์กรเงินทุน
                       ส่วนการด าเนินการต่างๆ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาวบ้านเป็นส าคัญ

                                          ส่วนรูปแบบการขยายเครือข่ายที่ศูนย์ฯ ใช้ก็คือ การให้ชาวบ้านที่เปรียบเสมือน
                       “แม่ข่าย” เป็นตัวเผยแผ่และกระจายงานของศูนย์ฯ กล่าวคือ “กลุ่มเก่า” หรือ “กลุ่มรุ่นพี่” มีบทบาท
                       ในการเตรียม “กลุ่มใหม่” หรือ “กลุ่มน้อง” โดยการให้ค าแนะน า-ปรึกษา-อบรม ตลอดจนการให้

                       แนวคิดในการท างาน และเสริมสร้างก าลังใจให้กลุ่มใหม่ฟันฝุาอุปสรรคไปได้อย่างงดงาม
                                          นอกจากประสบการณ์ของศูนย์สังคมพัฒนาข้างต้น ในหนังสือเรื่อง พัฒนาการ
                       และบทเรียนงานพัฒนาขององค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ ของกรมการพัฒนาชุมชน (2542) ได้มีการ
                       น าเสนอบทเรียนกระบวนการสร้างเครือข่ายรณรงค์ด้าน อบต. แสดงให้เห็นถึงกระบวนการท างานของ

                       องค์กรพัฒนาเอกชนว่า เปูาหมายไม่ได้อยู่ที่เพียง อบต. อย่างเดียว แต่จะมุ่งสู่ความเป็น “ประชาคม”
                       โดยมุ่งให้ อบต. เป็นเวที ในการแก้ไขปัญหา จึงมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มคนด้อยโอกาสให้มี
                       อ านาจในการต่อรอง และจากการที่ อบต.คือ โครงสร้างที่อยู่ภายในระบบรัฐ ดังนั้น กิจกรรมการ
                       แก้ไขปัญหาและตอบสนอง ความต้องการของประชาชนที่ผ่านมา อบต. เป็นที่ยอมรับของทุกฝุายได้

                       การส่งเสริมบทบาทให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมใน อบต. จึงเป็นประเด็นหลักส าคัญ ยุทธศาสตร์ใน
                       การท างานก็คือ การปลูกจิตส านึกของชุมชนต่างๆ ให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง และเกิดความ
                       ตระหนักในสิทธิและศักดิ์ศรีของกลุ่ม องค์กรชุมชน เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างมี
                       ประสิทธิภาพด้วยการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมให้กับกลุ่มต่างๆ ในชุมชน โดยมี

                       กระบวนการพัฒนาศักยภาพ ผู้น าและกลุ่ม
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49