Page 39 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 39
29
เรียกว่า ชีวิตนี้อยู่คนเดียวในโลกนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร แต่ความจริงคนชุมชนส่วนใหญ่ยังคง
ล าบากมีปัญหาเดือดร้อนมากมายทางด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อมและสังคมในชุมชน ขาดความ
มั่นคงในที่อยู่อาศัย องค์กรชุมชนขาดความเข้มแข็ง ไม่ได้รับการยอมรับ หลายปัญหาซับซ้อนและ
ยากเกินกว่าชุมชนหรือองค์กรหนึ่งจะแก้ได้โดยล าพังจึงจ าเป็นต้อง ร่วมกันหลายองค์กร หลายชุมชน
เพื่อให้เกิดพลังที่มากขึ้นเข้มแข็งขึ้น ช่วยเหลือกันและกันแก้ไขปัญหาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่
ของชาวชุมชนเมืองให้ดีขึ้นกว่าเดิม”
เครือข่ายการพัฒนาดังกล่าว เป็นการมองถึงความเป็นเครือข่ายในฐานะยุทธศาสตร์
กิจกรรมทางสังคม หรือกลยุทธ์ในการพัฒนาที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝุาย เครือข่ายการพัฒนา
เป็นพัฒนาการของกลุ่ม อาศัยความร่วมมือจากทุกฝุาย เครือข่ายการพัฒนาเป็นพัฒนาการของกลุ่ม
คนในระดับชุมชน ต าบล อ าเภอและจังหวัด ที่พยายามใช้กิจกรรมการพัฒนามากเป็นกระบวนการ
โดยเฉพาะกระบวนการมีส่วนร่วมและใช้กระบวนการนั้นไปสู่การพัฒนาในด้านต่างๆ
4.1 ประเภทและรูปแบบของเครือข่าย
จากการศึกษาเกี่ยวกับเครือข่ายพบว่า ได้มีความพยายามในการแบ่งประเภทและ
รูปแบบของเครือข่ายออกเป็นประเภทต่างๆ ตามวาทกรรมและกิจกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งการจัดประเภท
ของเครือข่ายไม่มีความจ าเป็นที่จะต้องเหมือนหรือแตกต่างกัน แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในการจัดแบ่ง
โดยการจัดแบ่งประเภทและรูปแบบของเครือข่ายพบว่า มีหลายลักษณะคือ
4.1.1 เครือข่ายตามพื้นฐานลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล คือ (Wolfe,
1970 อ้างถึงใน ปาน กิมปี, 2540)
1) เครือข่ายที่ไม่มีข้อจ ากัด (Unlimited network) ได้แก่ เครือข่ายที่เกิด
จากบุคคลหนึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแล้วนับรวมตั้งแต่บุคคลคนแรก ซึ่งบุคคลนั้นมีความสัมพันธ์อัน
สามารถเพิ่มจ านวนขึ้นได้โดยไม่จ ากัดว่าเป็นความสัมพันธ์ในระดับไหน
2) เครือข่ายที่มีข้อจ ากัด (Limited network) ซึ่งเป็นการระบุเครือข่าย
โดยการตั้งกฎเกณฑ์บางอย่างขึ้นมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ โดยเครือข่ายส่วนตัวของบุคคล ประเภท
บุคคล (เช่น ญาติ เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน) กิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ บทบาท
และหน้าที่ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเนื้อหาของการแลกเปลี่ยนนั้นเป็นไปในทางเศรษฐกิจหรือทาง
การเมือง
4.1.2 เครือข่ายสังคม ประกอบไปด้วย (Boissevain, 1974 อ้างใน ปาน กิมปี, 2540)
ปริมณฑลที่ส าคัญอย่างน้อย 3 ปริมณฑลด้วยกันคือ
1) ปริมณฑลแรก ควรประกอบด้วย บุคคลต่างๆ ที่ใกล้ชิดกับบุคคลที่เป็น
จุดศูนย์กลางมากที่สุด อันได้แก่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น เครือข่ายใกล้ชิด
2) ปริมณฑลที่สอง ได้แก่ เครือข่ายรอง (Effective network) ซึ่งประกอบด้วย
บุคคลต่างๆ ที่บุคคลซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางรู้จักคุ้นเคยน้อยกว่ากลุ่มแรก กลุ่มนี้มักได้แก่ ญาติพี่น้องที่ห่างๆ
ออกไป เพื่อนฝูง และคนที่รู้จักคุ้นเคยอื่นๆ
3) ปริมณฑลที่สาม ได้แก่ กลุ่มบุคคลซึ่งบุคคลที่เป็นจุดศูนย์กลางไม่รู้จัก
โดยตรงแต่สามารถติดต่อสัมพันธ์ด้วยได้ถ้าต้องการ โดยผ่านเครือข่ายใกล้ชิดอีกทีหนึ่งซึ่งเรียกว่า
เครือข่ายขยาย (Extended network)