Page 74 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 74
64
2) การรับฟังความคิดเห็น เป็นกระบวนการที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการ
ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงและความคิดเห็นด้วยวิธีต่างๆ เช่น การรับฟังความคิดเห็น การส ารวจความคิดเห็น
การจัดเวทีสาธารณะ การแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น
3) การเกี่ยวข้อง เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน
หรือร่วมเสนอแนะทางที่น าไปสู่การตัดสินใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าข้อมูลความคิดเห็น
และความต้องการของประชาชนจะถูกน าไปพิจารณาเป็นทางเลือกในการบริหารงานของภาครัฐ เช่น
การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาประเด็นนโยบายสาธารณะ ประชาพิจารณ์ การจัดตั้งคณะท างาน
เพื่อเสนอแนะประเด็นนโยบาย เป็นต้น
4) ความร่วมมือ เป็นการให้กลุ่มประชาชนผู้แทนภาคสาธารณะมีส่วนร่วม
โดยเป็นหุ้นส่วนกับภาครัฐในทุกขั้นตอนของการตัดสินใจ และมีการด าเนินกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
เช่น คณะกรรมการที่มีฝุายประชาชนร่วมเป็นกรรมการ เป็นต้น
5) การเสริมอ านาจแก่ประชาชน เป็นขั้นที่ให้บทบาทประชาชนในระดับสูงที่สุด
โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ เช่น การลงประชามติในประเด็นสาธารณะต่างๆ โครงการกองทุน
หมู่บ้านที่มอบอ านาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจทั้งหมด เป็นต้น
ธนพร สุปริยศิลป์ และคณะ (2553) ศึกษาการขยายเครือข่ายการมีส่วนร่วมของ
ชุมชน และระบบเตือนภัยบริเวณลุ่มน้ าน่านตอนบน เพื่อการปูองกันอุทกภัยและดินถล่ม ในการศึกษา
ได้เน้นหนักในด้านกระบวนการการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการปูองกัน
อุทกภัยและดินถล่ม โดยยึดหลักแนวคิดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ความพอประมาณ
ความมีเหตุมีผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ก่อให้เกิดแนวคิดหลักในการด าเนินการโครงการวิจัย คือ
ท าให้ชุมชนและชุมชนในพื้นที่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ศักยภาพของ
คนในชุมชน จากนั้น จึงมีการคัดเลือกกลุ่มเปูาหมาย โดยกลุ่มเปูาหมายในการศึกษานี้ประกอบด้วย
ก านัน ผู้ใหญ่บ้านจากหมู่บ้านเสี่ยงภัย ผลการวิจัยพบว่า โครงการวิจัยนี้ได้สร้างการมีส่วนร่วมของ
ประชาชน และได้สร้างเครือข่ายขึ้นในอ าเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ซึ่งเครือข่ายประกอบด้วยตัวแทน
ของทุกภาคส่วนในชุมชน
สุริยา ค าหว่าน และคณะ (2553) ศึกษาการบริหารทรัพยากรน้ าโดยชุมชนมี
ส่วนร่วม กรณีศึกษาลุ่มน้ าตอนล่าง อ าเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ผลการศึกษาพบว่า บทบาท
หน้าที่ของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการจัดการทรัพยากรน้ าและน าไปสู่การแก้ไข
ปัญหาในพื้นที่ลุ่มน้ าตอนล่าง อ าเภอธาตุพนม จากการที่ผู้ศึกษาได้ทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่
เกี่ยวข้องกับแนวคิดและทฤษฎีด้านการจัดการกับภัยพิบัติ และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการจัดการ
ดังกล่าว จึงได้พัฒนาเป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา โดยมีแนวคิดพื้นฐานว่าการจัดการภัยพิบัติมิใช่
หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่เป็นเรื่องของ
ทุกคนทุกหน่วยที่ต้องมีส่วนร่วมในการปูองกันและแก้ไขปัญหา ในการจัดการภัยพิบัติทุกขั้นตอน และ
เมื่อมองไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย ชุมชนที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติ จึงเป็นกลุ่มแรกที่อาจจะได้รับผลกระทบ
จากภัยพิบัติ ซึ่งภัยพิบัติ สามารถลดลงได้ หากประชาชนและชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้รับรู้ถึงวิธีการ
หรือมาตรการการจัดการความเสี่ยงที่คนในชุมชนสามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดภัยพิบัติได้