Page 78 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 78
68
นอกจากนั้นยังพบว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา การใช้ทรัพยากรจากปุาชายเลน
โดยตรงเช่น การใช้ไม้และผลจากปุาชายเลนได้ลดลงจนไม่มีนัยส าคัญ เนื่องจากวิถีการด ารงชีพที่ผูกพัน
กับปุาโดยตรงมีไม่มากขณะเดียวกันการท าประมงในบริเวณปุาชายเลนก็มีอย่างจ ากัด เนื่องจาก
เรือประมงขนาดเล็กเริ่มใช้เครื่องยนต์ ซึ่งท าให้พื้นที่จับสัตว์น้ าของประมงพื้นบ้านขยายออกไกลจาก
ชายฝั่งได้มากขึ้น ช่วงเวลาดังกล่าวท าให้ความส าคัญของปุาชายเลนถูกมองข้าม จึงมีการเปลี่ยนแปลง
ปุาเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงและยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2530 ซึ่งมีการเพิ่มพื้นที่เลี้ยงกุ้ง
กุลาด าเป็นจ านวนมากในชายฝั่งบริเวณนี้ อย่างไรก็ตามภาวการณ์รุกพื้นที่ปุาชายเลนเกิดขึ้นในเวลา
ไม่นาน เมื่อนากุ้งเริ่มล่มสลายเนื่องจากเกิดโรคระบาดและมีผลผลิตที่ลดลงต่ าจนไม่คุ้มทุนการรุกพื้นที่
จึงหยุดลง แต่ก็ได้เปลี่ยนพื้นที่ปุาไปเป็นจ านวนมากแล้วเป็นบริเวณพื้นที่นากุ้งและแปรสภาพไปใช้
ประโยชน์อย่างอื่น จากข้อมูลแบบสอบถามชุมชน พบว่า จังหวัดสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่ยังคงมี
เนื้อที่ปุาชายเลนอยู่มากที่สุด รองลงมาคือจังหวัดเพชรบุรี การคงอยู่ของปุาชายเลนในจังหวัดสมุทรสาคร
ซึ่งเหลือน้อยที่สุดแปรตามการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมและการประกอบอาชีพประมง
เมื่อเปรียบเทียบกับอดีต ในขณะเดียวกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลได้เกิดขึ้นในอัตราที่รุนแรงขึ้น
ปุาชายเลนที่เคยดูดซับพลังงานและปูองกันชายฝั่งกลายเป็นทรัพยากรที่เปราะบางต่อการถูกกัดเซาะ
โดยมีสมมติฐานต่อการเพิ่มการกัดเซาะ ประกอบด้วย 1) การลดลงของปริมาณตะกอนที่ถมทับพื้นที่
ชายฝั่ง 2) การลดลงของกล้าไม้ที่จะขึ้นแทรกแซมแนวปุาที่ถูกกัดเซาะ (ปุาขาดความอุดมสมบูรณ์
จึงมีอัตราการผลิตกล้าไม้ที่รอดยืนต้นน้อยลง) 3) การเปลี่ยนพิสัยของน้ าขึ้นน้ าลงเนื่องจากน้ าไม่เอ่อท่วม
ได้ดังเดิม อันเป็นผลของการถมปรับเปลี่ยนพื้นที่ในปุาชายเลนและบริเวณชายฝั่งโดยรอบ และ 4) การ
ทรุดตัวลงของแผ่นดิน อย่างไรก็ตามความส าคัญของปุาชายเลนในด้านระบบนิเวศกลับทวีความส าคัญ
ยิ่งขึ้นเนื่องจากการลดลงของพื้นที่โดยรวมของปุา ท าให้แต่ละหน่วยพื้นที่ของปุาชายเลนในทุกจังหวัด
จะเกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรงแต่การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่งและการจับสัตว์น้ าบริเวณ
ปุาชายเลนยังคงมีอยู่มาก ซึ่งในประเด็นนี้น่าจะเป็นแรงจูงใจหรือแรงกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการ
อนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพปุาชายเลนให้เกิดขึ้นได้ในชุมชน
อมรศักดิ์ ฉัตระทิน และคณะ (2554) ศึกษาแนวทางลดผลกระทบจากการกัดเซาะ
ชายฝั่ง โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนต าบลแหลมใหญ่ อ าเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม พบว่า ในอดีต
พื้นที่ต าบลแหลมใหญ่มีปุาชายเลนจ านวนมาก ส่วนใหญ่เป็นต้นล าพู แสมขาว โกงกาง จากชาวบ้านมี
อาชีพประมงพื้นบ้าน เช่น การท ากล่ าปลาดุก อวนลอยติดตา ปูองเคย เก็บหอยแครง ควบคู่กับอาชีพ
เผาถ่านจากไม้โกงกาง ซึ่งเป็นอาชีพที่ท าให้เศรษฐกิจในชุมชนมีความเข้มแข็ง เนื่องจาก การเผาถ่าน
แต่ก่อนนั้นใช้วิธีการตัดแล้วปลูกทดแทนหมุนเวียนกันไป ท าให้มีไม้เผาได้เพียงพอและไม่เสียพื้นที่ปุา
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2530 มีการส่งเสริมให้เลี้ยงกุ้งกุลาด า จึงมีนายทุนเข้ามาปรับเปลี่ยนพื้นที่จาก
ปุาชายเลนเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง อาชีพประมงพื้นบ้านเริ่มหายไป บางคนมีที่ดินก็ขายที่ดิน เพราะในขณะนั้น
ที่ดินมีราคาสูง เตาเผาถ่านที่เคยเผาถ่านตลอดเวลาก็ต้องปิดตัวลง เพราะขาดแคลนไม้ที่ใช้เป็นวัตถุดิบ
อาชีพที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านต้องหายไปจากพื้นที่ ปัจจุบันอาชีพการเลี้ยงกุ้งกุลาด าต้องจบลง
เนื่องจากการประสบปัญหาขาดทุน จนต้องทิ้งบ่อเลี้ยงกุ้งเป็นเพียงพื้นที่โล่งที่ไม่มีการท าประโยชน์
เมื่อไม่มีปุาชายเลน ไม่มีที่อาศัยของสัตว์น้ าวัยอ่อน ชาวบ้านต้องทิ้งถิ่นอาชีพเดิมเข้าโรงงานเพื่อความ