Page 75 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 75
65
ฐิติภัทรา คาผงแดง และมนตรี กรรพุมมาลย์ (2554) ศึกษาการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในการจัดการภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน กรณีศึกษา: ต าบลชมพู อ าเภอเนินมะปราง
จังหวัดพิษณุโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบว่าประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการ
ภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนอยู่ในระดับใด พบว่า ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการภัยพิบัติ
แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสังเกตการณ์ การเฝูาระวัง การแจ้งเตือนภัย และการวางแผน
การอพยพว่า เป็นหน้าที่ของตนและประชาชนทุกคนในชุมชน โดยส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นภาระของ
หน่วยงานราชการที่ต้องดูแลให้ความช่วยเหลือ การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการจัดการภัยพิบัติ
ของชุมชนทุกขั้นตอน ได้แก่ การร่วมกันคิด การวางแผน ร่วมด าเนินการ และร่วมติดตามประเมินผล
อยู่ในระดับปานกลาง โดยขั้นตอนที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดคือ การร่วมกันคิด ซึ่งจะเห็นได้ว่า
ประชาชนในชุมชนยังตระหนักถึงภัยพิบัติ ข้อคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดการภัยพิบัติของชุมชน
โดยรวมประชาชนเห็นว่า ตนเองมีบทบาทในชุมชนมากเพียงพออยู่แล้ว อีกทั้งองค์กรในพื้นที่ก็มีหน้าที่
เพียงด าเนินการให้ความช่วยเหลือตามสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น การวางแผน การเตรียมพร้อม
และการให้ความรู้จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานองค์กรจากส่วนกลางที่จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจ
แก่ประชาชน และองค์กรในพื้นที่ทราบถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงๆ
รณชัย มณีอินทร์ (2554) ศึกษาบทบาทขององค์การบริหารส่วนต าบลกับการ
ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยในจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะใน
การปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์การบริหารส่วนต าบลในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า
ส่วนใหญ่มีการเตรียมความพร้อมก่อนเกิดสาธารณภัย โดยให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมวางแผนจัดตั้ง
ศูนย์อ านวยการเฉพาะกิจ เพื่อจัดเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ขณะเกิดสาธารณภัย นายกองค์การ
บริหารส่วนต าบลด ารงต าแหน่งผู้อ านวยการศูนย์ฯ มีการแจ้งเตือนภัย เข้าระงับภัย และช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัย หลังจากสาธารณภัยสิ้นสุดลงมีการส ารวจและซ่อมแซมสาธารณูปโภคที่เสียหาย
การฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ประสบภัย แต่ปัญหาที่พบองค์การบริหารส่วนต าบลส่วนใหญ่ยังขาดแคลน
งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์กู้ภัย บุคลากรที่มีความรู้ ข้อเสนอแนะขององค์การบริหารส่วนต าบลต้องการ
ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น การสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการอบรมเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนแนวทางในการด าเนินงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย จากผลการศึกษาพบว่า มีองค์การบริหาร
ส่วนต าบลเพียงไม่กี่แห่ง ที่มีการเตรียมแผนการด าเนินงานตามแนวทางดังกล่าว ส่วนองค์การบริหาร
ส่วนต าบลที่ไม่ได้มีการจัดท าแผนในการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย เนื่องมาจากในพื้นที่ๆ รับผิดชอบ
ไม่เคยเกิดสาธารณภัย หรือไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงภัย หรือตัวนายกองค์การบริหารส่วนต าบล และไม่ทราบว่า
ตนมีบทบาทอ านาจและหน้าที่ในการจัดท าแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ของตนเอง
ถ้าองค์การบริหารส่วนต าบลใดมีการจัดท าแผน ลักษณะของการจัดท าแผนจะให้ประชาชนเข้ามามี
ส่วนร่วมในการจัดท าแผนปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่ลักษณะของแผนดังกล่าวไม่มีความ
ครอบคลุมในทุกประเด็น และไม่ใช่เป็นแผนเชิงปฏิบัติการ ตัวนายกองค์การบริหารส่วนต าบลหรือ
เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย และไม่เห็นถึง
ความส าคัญและความจ าเป็นในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ตลอดเวลา