Page 39 - รวมอารยธรรมเกือบเสร็จ
P. 39
๓๕
อ านาจทางการเมืองไว้หมดลิ้น อย่างไรก็ดี คณะรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลลงครามก็พยายามบริหาร
ประเทศท่ามกลางปัญหานานัปการ และรัฐบาลเองก็ยังถูกต่อต้านจากกลุ่มอ านาจต่างๆ ในยุคนี้จึงเก็ด
เหตุการณ์รุนแรงทางการ เมืองขึ้นหลายครั้ง เช่น กบฏวังหลวง และกบฏแมนฮัตตัน เป็นต้น ต่อมารัฐบาล
ของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็จะประสบปัญหากับการท้าทายอ านาจจากกลุ่มของพลเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์
และ กลุ่มของพล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ และยังประสบกับปัญหาความไม่พอไจของประชาชนที่ต่อต้าน
รัฐบาลเรืองการทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อบริหารประเทศได้ระยะหนึ่งรัฐบาลจึงถูกรัฐประหารโดย . จอม
พลสฤษดิ์ ธนะรัชต์และได้ตั้งนายพจน์ สารสิน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว หลังจากนั้นก็ ให้จอมพล
ถนอม กิตติขจร เข้าด ารงต าแหน่งแทน
เมื่อรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร ได้เข้าบริหารประเทศระยะหนึ่ง จอมพลสฤษดิ์ ธนะ
รัชต์ก็เข้ามาด ารงต าแหน่งนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศต่อ รัฐบาลนี้มีนโยบายที่ให้ ความส าคัญต่อ
สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต่อต้านคอมมิวนิสต์ จึงได้รับการ สนับสนุนจากประเทศ
สหรัฐอเมริกาหลายด้าน เช่น การสนับสนุนการพัฒนาในด้านวัตถุตาม นโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ นอกจากนี้ผู้น าประเทศยังใช้อ านาจอันเด็ดขาด ในการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบแก่
บ้านเมืองท าให้สังคมไทยยุคนี้จึงมีความสงบสุขความ เรียบร้อยและปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่เป็นยุคที่
พัฒนาการของระบบประชาธิปไตยในประเทศ ไทยหยุดชะงักเนื่องจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มี
นโยบายให้ประชาชนไม่ยุ่งเกี่ยวยับการเมือง
เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ถึงแก่อสัญกรรมในพ.ศ.๒๕๐๖ จอมพลถนอม กิตติขจรได้ตั้ง
รัฐบาลบริหารประเทศสืบต่อ รัฐบาลนี้มีนโยบายที่อิงอยู่ยับอิทธิพลของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง
ใกล้ชิดในยุคสงครามเย็น ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะท าให้ระบอบประชาธิปไตยมีความสมบูรณ์ขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้มีปัญหาเรื่องเสถียรภาพจากกลุ่มอ านาจต่างๆ ภายในรัฐบาลที่เป็นไป
พร้อมกับปัญหาทุจริตคอรัปชั่น รัฐบาลนี้จึงถูกกลุ่มประชาชน กลุ่มนักศึกษา และกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
เดินขบวนขับไล่จนประสบความส าเร็จ ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ หลังจากนั้นมวลชนก็มีการ
เรียกร้องให้มีการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาอีกครั้ง
เหตุการณ์วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งส าคัญของประวัติศาสตร์การ
เมืองไทย เนื่องจากเป็นยุคที่ประชาธิปไตยเบ่งบานเต็มที่ รัฐบาลเองก็ให้สิทธิเสรีภาพทางความคิดและการ
แสดงออกทางการเมืองแก่ประชาชนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ในยุคนี้กลับมีประชาชนหลายกลุ่มใช้สิทธิ
เกินขอบเขตจนเกิดการแตกแยกในความคิดยันขึ้นในสังคม จนบ้านเมืองเกิดความแตกแยกขาดความสงบ
เรียบร้อยจนเกิดความปันป่วนวุ่นวาย กองทัพจึงได้ เข้ายึดอ านาจการปกครองและน าบ้านเมืองสู่ระบบเผด็จ
การทหารอีกครั้งในวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ หลังจากนั้นรัฐบาลที่น าโดยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ก็หัน
มาใช้นโยบายสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองด้วยวิธีการแบบอ านาจนิยมมีการปลูกจิตส านึกชาตินิยม