Page 44 - รวมอารยธรรมเกือบเสร็จ
P. 44
๔๐
มนุษย์เอาไว้ (ดูเพิ่มเติมใน นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ , ๒๕๓๕ : ๑๓๕ -๑๔๕) แนวคิดเหล่านี้นับว่าเป็น
รากฐานส าคัญต่อโลกทัศน์ของกลุ่มนักคิดนักเขียนอาจารย์มหาวิทยาลัยและนิสิต นักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่ม
ผู้น าทางความคิดของชาติ มีอุดมการณ์หลัก คือ การต่อต้านเผด็จการทหารและต่อต้านภาวะการผูกขาด
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการฉ้อราษฎรบังหลวง กลุ่มปัญญาชนมักน าเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเรื่อง
รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมในสังคมและการมีส่วนร่วมทางการ
เมืองของประชาชน กลุ่มนักคิดนักเขียนเหล่านี้ได้พยายามเสนอผลงานเพื่อสะท้อนสังคมและหวังผลทาง
การเมืองโดยผ่านวรรณกรรมต่างๆซึ่งนิยมแต่งขึ้นเพื่อสื่อความคิดด้านต่างๆ ตามกระแสการเมืองการ
ปกครอง แนวคิดของปัญญาชนกลุ่มนี้ นับว่ามีอิทธิพลอย่างสูงต่อพัฒนาทางการเมืองของกลุ่มนิสิต
นักศึกษา ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เช่น ความส าเร็จของขบวนการนิสิตนักศึกษา ปัญญาชน
ในการโค่นล้มรัฐบาลเมื่อ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ บรรยากาศหลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ท า
ให้การเมืองการปกครองมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เป็นยุคของการเมืองที่มีเสรีภาพในการแสดงออก
มากขึ้นมีกิจกรรมทางการเมืองต่างๆเกิดขึ้นมากมายซึ้งล้วนแต่เป็นการส่งเสริมบรรยากาศประชาธิปไตยและ
มีผลต่อทัศนคติทางการเมืองของคนไทยต่อมา (กรมวิชาการ ,๒๕๔๓ : ๒๕๔)
๒.แนวคิดทางการเมืองแบบเผด็จการนิยม-ทหารนิยม แนวคิดนี้จะเป็นการผสมผสานแนวคิดแบบ
ฟาสซิสต์ หรือเผด็จการทหาร ที่ขยายตัวอย่างกว้างขวางในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ มาผสมผสานเข้า
กับลัทธิชาตินิยมแบบเอเชียที่มุ่งต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมแบบตะวันตก ผู้ที่มีบทบาทเด่นคือ จอมพล ป.
พิบูลสงคราม ซึ่งมีแนวคิดในเรื่อง “การสร้างชาติใหม่ในระบอบประชาธิปไตย” การสร้างชาติใน
ความหมายของ จอมพล ป. พิบูลสงครามคือการสร้างเงื่อนไขทางวัฒนธรรมแบบใหม่โดยมุ่งว่าจะ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในชาติให้สอดคล้องกับระบอบการเมืองการปกครอง เช่น การเปลี่ยนชื่อ
ประเทศ การยกเลิกบรรดาศักดิ์ การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการแต่งกาย ภาษา ความเป็นอยู่ เป็นต้น ซึ่งมีการ
ออกนโยบายต่างๆเหล่านี้ผ่าน “รัฐนิยม” ๑๒ ฉบับ นอกจากนี้ยังสร้างสัญลักษณ์ต่างๆเพื่อจูงใจให้คนมานิยม
การเมืองแบบนี้ เช่น สร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์แทนอ านาจทางการเมืองแบบเก่า
นอกจากนี้ยังมีนโยบายเศรษฐกิจแบบชาตินิยมเพื่อต่อต้านคนจีน ซึ่งการสร้างชาติให้ทันสมัยนี้ ชระชาชน
จ าต้องปฏิบัติตามผู้น าที่มีบุคลิกที่เข้มแข้งมีสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด แนวคิดในเรื่องผู้น านิยมนี้ได้สืบ
ทอดมาจนถึงสมัยรัฐบาลของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ได้ใช้กรอบความคิดแบบนี้มาปรับเปลี่นให้
สอดคล้องกับสังคมไทย กล่าวคือ ความคิดทางการเมืองของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ จะแสดงให้เห็นถึงพลัง
ของลัทธิทหารในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างชอบธรรมเพื่อท าหน้าที่ดูแลชาติไทยให้มีความมั่นคง
ปลอดภัย การปกครองตามความคิดนี้ยังให้ความส าคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูง จอมพล สฤษดิ์
ยังมีความเห็นว่าหลักการปกครองที่เหมาะสมกับประเทศไทยควรเป็นแบบประเพณีเดิม คือ “แบบพ่อ