Page 42 - รวมอารยธรรมเกือบเสร็จ
P. 42

๓๘




                        ระยะ ๑๐ ปี นับจาการเปลี่ยนแปลงการปกครองจะให้มีสมาชิกผู้แทนราษฎรที่ราษฎรเลือกตั้งทั้ง

               สภา ถือเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งการปกครองในระยะแรกพระยามโน

               ปกรณ์นิติธาดารับหน้าที่ปรานคณะกรรมการราษฎร ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นส่วนใหญ่ก็คือ

               ข้าราชการพลเรือนและทหารในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คณะกรรมการราษฎรและสภาผู้แทนราษฎร
               ดังที่กล่าวมาได้บริหารประเทศอยู่ระยะหนึ่งจึงมีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรประเภทที่ ๑ ต่อมาเมื่อรัฐบาล

               ประกาศใช้รัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ คณะกรรมการราษฎรเปลี่ยนชื่อเป็น

               คณะรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการราษฎรเปลี่ยนเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมีพระยามโนปกรณ์นิติธาดารับ

               ต าแหน่ง รูปแบบการปกครองในสมัยนี้จึงประกอบไปด้วยสถาบันและองค์กรส าคัญ คือ รัฐธรรมนูญ

               พระมหากษัตริย์(ทรงใช้อ านาจอธิปไตยตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ) สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี

               และศาล และการใช้เลือกตั้งเป็นวิธีการส าคัญในการสรรหาบุคคลเข้ามาใช้อ านาจนิติบัญญัติและอ านาจ

               บริหารแทนราษฎรตามระยะเวลาที่ก าหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ (ภารดี มหาขันธ์ , ๒๕๓๒:๑๔๙) โครงสร้าง

               การบริหารแบบนี้จึงเป็นขั้นพื้นฐานต่อการจัดรูปแบบการบริหารประเทศในสมัยต่อมาซึ่งมีการปรับปรุง

               เปลี่ยนแปลงบางอย่างให้เหมาะสมกับยุคสมัย ซึ่งอาจสรุปภาพรวมได้คือ


                      ๑.โครงสร้างการเมืองการปกครองของไทยจะประกอบไปด้วยองค์กรส าคัญ ๓ ฝ่ายคือ ฝ่ายนิติ

               บัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ แต่ละฝ่ายจะมีอ านาจหน้าที่ของตนเอง แต่ก็มิได้มีอ านาจแยกจากกัน

               เด็ดขาด พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐเป็นผู้ใช้อ านาจในการแกครองแทนปวงชนชาวไทยผ่าน
               สถาบันทั้ง ๓ ฝ่าย โดยในการบริหารประเทศจะมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดซึ่งเป็นแนวทางในการ

               ปฏิบัติและจัดระเบียบสังคม ส่วนรูปแบบการปกครองของไทยจะมีทั้งแบบสภาเต็มรูป แบบรัฐสภา แบบฝ่าย

               บริหารหรือรัฐบาลโดยฝ่ายบริหารแบบกึ่งรัฐสภา เป็นต้น ส่วนสถาบันทางการเมืองต่างๆ ได้แก่ สถาบัน

               พระมหากษัตริย์ รัฐสภาที่ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา คณะรัฐสภา ศาลต่างๆ พรรคการเมือง

               เป็นต้น


                     ๒.การบริหารราชการแผ่นดินในการปกครองประเทศนั้นมีอ านาจในการด าเนินกิจการเพื่อให้เป็นไป

               ตามกฎหมายจะมีอยู่ ๒ ระดับ ได้แก่ ระดับสูงสุดคืออ านาจของรัฐบาลหรือรัฐมนตรี เป็นผู้ก าหนดนโยบาย

               ส่วนอีกระดับจะเป็นการปฏิบัติตามนโยบายที่คณะรัฐมนตรีวางไว้เรียกว่าการบริหารราชการแผ่นดินหรือ

               การบริหารรัฐกิจส าหรับการจัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินนโยบายโดยธรรมจะแยกออกเป็น ๓

               ส่วนคือ
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47