Page 45 - รวมอารยธรรมเกือบเสร็จ
P. 45
๔๑
ปกครองลูก” จากแนวคิดนี้จึงท าให้รัฐบาลทหารมีอ านาจสูงสุดในการรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ประชาชนมีหน้าที่เชื่อฟัง แนวคิดนี้นักวิชาการเรียกว่า “ระบบพ่อขุนอุปถัมภ์” กล่าวคือ การเมืองเป็นเรื่อง
ของกษัตริย์ผู้มีปัญญาบารมีและเป็นผู้มีความเที่ยงธรรม ดังนั้นผู้ปกครองจึงเปรียบเสมือนพ่อขุนดูแลทุกข์สุข
เอาใจใส่ประชาชนเหมือนลูกหลานโดยพ่อขุนจะมอบอ านาจให้กับตัวแทนคือข้าราชการดูแล ส่วนราษฎรมี
หน้าที่ต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามค าสั่งของพ่อขุนแนวคิดทางการเมืองดังกล่าวน าไปสู่ระบบ “เผด็จ
การทหาร” ซึ่งสืบทอดมาจนถึงสมัยรัฐบาลของจอมพล ถนอม กิตติขจร (ลิขิต ธีรเวคิณ. ๒๕๓๗:๑๕๗)
๓.แนวคิดทางการเมืองแบบสังคมนิยม เป็นแนวความคิดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วภายหลังการปฏิวัติ
ในรัสเซีย พ.ศ. ๒๔๖๐ (ค.ศ.๑๙๑๗) แนวคิดนี้เน้นในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยอ านาจของชนชั้นสูงและชนชั้น
กลางที่เหนี่ยวรั้งอ านาจการปกครองโดยประชาชน ผู้ที่มีความคอดแนวนี้ที่โดดเด่นคือ จิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งเป็น
ปัญญาชนในกลุ่มฝ่ายซ้ายยุคใหม่ที่มีแนวคิดต่อต้านระบบทหารนิยม และระบบทุนนิยม แนวคิดของ จิตร
ภูมิศักดิ์ ปรากฏในงานเขียนของเขาหลายเรื่องเช่น “โฉมหน้าศักดินาไทย” ซึ่งจิตร ภูมิศักดิ์ เสนอว่าศักดินา
ไทยมีลักษณะเหมือนระบบฟิวดัลของยุโรป ดังนั้น จิตร ภูมิศักดิ์ จึงมองประเทศไทยในกรอบทฤษฏี
ประวัติศาสตร์แนวมาร์กซิสต์คลาสสิค จิตร ภูมิศักดิ์ ได้เสนอภาพเจ้าของที่ดินเอาเปรียบชาวนาเป็นจุดส าคัญ
ของประวัติศาสตร์ไทยจนมาถึงปัจจุบัน เพราะมีพระมหากษัตริย์เป็นเพียงเจ้าของที่ดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงาน
เขียนของจิตรจึงท้าทายภาพอันงดงามของระบบการเมืองของชนชั้นสูงในขณะนั้น การค้นพบงานของจิตร
น าไปสู่การอภิปรายอย่างเผ็ดร้องเรื่องวิถีการผลิตในประเทศไทยน ามาซึ่งแนวคิดที่ล้มระบบฟิวดัลในไทย
โดยกลุ่มผู้สนับสนุนขบวนการชนบท ซึ่งขบวนการดังกล่าวต่อมาได้หันไปในแนวทางเดียวกับพรรค
คอมมิวนิสต์ไทย และพร้อมจะเดินทางออกจากป่าสู่เมือง (ผาสุก พงษ์ไพจิตาและ คริส เบเคอร์ ๒๕๓๙ :
๕๑๙)