Page 42 - งานนำเสนอ44
P. 42
38
5.แบบลูกปืนหมุนเวียน (Recirculating Ball or Worm and Nut) กระปุก
พวงมาลัยแบบนี้จะมีลูกปืน หมุนเวียนอยู่ข้างใน โดยมีหลักการเช่นเดียวกับการหมุนสกรู
และนอต ถ้าต้องการให้หมุนได้คล่องก็ใช้ลูก ปืนกลมเป็นสันเกลียวแทน จะช่วยลดความ
ฝืดและท าให้หมุนได้คล่องขึ้นแกนพวงมาลัยจะท าเป็นร่องแบบ เกลียวท าเป็นร่องกลม
เรียกว่า Wormhshaft ตัวบอลนอต (Ball Nut) ข้างในกลึงเป็นร่องเกลียวลักษณะ เป็น
ร่องกลม เช่นเดียวกับที่ตัวแกนพวงมาลัยระหว่างร่องเกลียวของแกนพวงมาลัย และบอล
นอตใส่ลูกปืน จนเต็มและมีท่อลูกปืนกลับ ด้านล่างของบอลนอตท าเป็นฟันแบบเฟือง
สะพาน เป็นเฟืองซี่ตรงขบอยู่กับ เฟืองเสี้ยว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเพลาขวาง
แกนพวกมำลัย
พวงมาลัย (Steering Wheel) มีลักษณะเป็นวงกลมมีซี่พวงมาลัย (Wheel
Spoke) เป็นตัวยึดส่วนต่างๆ ไว้ด้วยกัน ตรงกลางพวงมาลัยท าเป็นร่องไว้ส าหรับสวมกับ
ร่องแกนพวงมาลัย โดยมีนอตเป็นตัวพวงมาลัย ให้ติดแน่นกับแกน ใช้บังคับทิศทางการ
เคลื่อนที่ของรถยนต์ แกนพวงมาลัยส่วนมากจะถูกออกแบบให้ยุบ ตัวลงได้เพื่อป้องกัน
อันตรายในกรณีที่รถเกิดการชนกันทางด้านหน้าท าให้พวงมาลัยอัดหรือกระแทกตัวคนขับ
ได้
แกนพวงมาลัย (Steering Column) เป็นแกนเพลาที่ต่อระหว่างพวงมาลัย
กับกระปุกพวงมาลัย ประกอบด้วยเพลาหลัก ซึ่งท าหน้าที่ส่งถ่ายแรงจากการหมุน
พวงมาลัยให้ไปยังกระปุกพวงมาลัยโดยมี ปลอกพวงมาลัยยึดติดกับเพลาหลักและตัวถัง
รถยนต์ ปลายด้านบนสุดของเพลาจะมีลักษณะท าเป็นสไปลน์ ร่องเรียว (Spline) ส าหรับ
ยึดพวงมาลัย แกนพวงมาลัยจะรวมเอากลไกดูดซับแรงกระแทกและแรง อัดที่เกิดขึ้นจาก
การชนเข้าไว้