Page 38 - งานนำเสนอ44
P. 38
34
6. ลูกหมำก (Tie-Rod End or Ball Socket Joint) ที่ส่วนปลายคัน
ส่งจะมีลูกหมากเป็นตัวต่อกับแขน บังคับเลี้ยวและก้านต่ออื่น เช่น ก้านต่อกลาง ซึ่ง
จะต้องหมุนและเต้นได้ จุดหมุนจึงท าเป็นรูปทรงกลม โดยมี สลักยึดกับชิ้นส่วนอื่นได้
ลูกหมากจะมี Ball Stud และเบ้าประกอบ (Ball Socket) ส่วนใหญ่เบ้าลูกหมากประ
กอบด้วยชิ้นส่วนที่เป็นเหล็ก จึงต้องอัดจาระบีชนิดทนน้ าตามระยะเวลา และมีสปริงดัน
เบ้าเข้ากระชับกับ Ball Stud ในปัจจุบันลูกหมากหลายแบบใช้สารไนลอนเป็นเบ้า จึงไม่
จ าเป็นต้องอัดจาระบี ลูกหมากชนิดนี้จึงไม่มี หัวอัดจาระบี
7. แขนประคอง (Idler Arm) หรือแขนพำ เป็นตัวบังคับให้การเคลื่อนที่
ของบังคับเลี้ยวเป็นรูปสี่เหลี่ยม ด้านขนาน ใช้ในระบบบังคับแบบสี่เหลี่ยมด้านขนานซึ่ง
เป็นแบบที่ใช้กันมากที่สุด มีหลายแบบดังนี้
7.1 แบบบุชเกลียว (Threadee Bushing) แบบบุชเกลียวนี้ ด้านโคนมี
สลักเกลียวสวมอยู่กับตัวยึดเกลียว ของแขนกับตัวยึด มีลักษณะเป็นเกลียวสี่เหลียม ซึ่งมี
ระยะฟรีมากกว่าเกลียวปกติ จึงท าให้หมุนส่ายไปมาได้ ด้านปลายท าเป็นเหล็กกลมสวม
เข้ากับก้านต่อกลาง ซึ่งท าเป็นท่อมีเบ้าและสปริงบีบให้ติดกัน ปลายท่อท า เป็นเกลียวมี
สกรูปรับให้กระชับกับเหล็กกลมได้ตามต้องการ
7.2 แบบชิ้นเดียว (One Piece) แบบนี้แขนประคองและตัวยึดจะได้รับ
การออกแบบให้เป็นเดียวกัน ถ้าบุชเกิดช ารุดต้องเปลี่ยนใหม่
7.3 แบบบุชยาง (Rubber Bushing) แบบนนี้แขนประคองด้านโคนที่ติด
อยู่กับตัวยึด (Bracket) บุชยางสามารถเปลี่ยนได้
8. โช้กอัพกันสะเทือนพวงมำลัย (Steering Damper) โช้กอัพจะถูก
ติดตั้งไว้ระหว่างก้าน ต่อบังคับเลี้ยวและโครงรถ โช้กอัพพวงมาลัยจะท าหน้าที่ลดอาการ
สั่นสะเทือนที่เกิดจากล้อส่งถ่ายมายัง พวงมาลัย เนื่องจากสภาพพื้นผิวถนนขรุขระ
หรือไม่ราบเรียบ มีใช้รถยนต์ที่ยกระดับตัวถังสูง เพื่อใส่ ล้อขนาดใหญ่