Page 12 - book1
P. 12
- 9 -
บทที่ 6
แตพอจํา ความได ไมสับสน แมทุกคน จะสอน ใหแยมสรวล
สวัสดี สงจูบ อยางนุมนวล แลวก็ชวน ใหยิ้มหวาน เบิกบานใจ
พอเราเติบโตขึ้นมาอีกหน่อย ทั้งพ่อและแม่ก็จะพยายามสอนให้ สาธ
หรือ สวัสดี ส่งจูบ ยิ้มหวาน หรือท่าทางอื่นที่ดูแล้วน่ารักน่าชัง แล้วชอบอุ้มออกไป
เที่ยวโชว์ความน่ารักของลูก (ซึ่งนักจิตวิทยาบอกว่าสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมนั้นตอนที่
ยังเล็ก ๆ อยู่ จะน่ารักมาก แต่พอโตขึ้นก็จะแล้วแต่สายพันธุ์ของสัตว์ประเภทนั้น ๆ
ซึ่งลูกคนก็เหมือนกันลองสังเกตดู) แล้วเมื่อเจอกับใครๆ แม่ก็จะบอกให้สวัสดี ยิ้ม
หวาน โบกมือส่งจูบทุกครั้งไปหากทําได้ทุกครั้งก็จะได้รางวัลคือ แม่จะกอดเราแน่น
ขึ้น หอมแก้ม และชมว่าเก่ง ๆๆ แม้กระทั่งคนที่พบเห็นก็จะชมกันใหญ่เลย แล้ว
ทุกคนก็จะพากันมาขออุ้ม ๆๆๆ กันอย่างไม่เบื่อเลยซึ่งเราก็ชอบให้เขาอุ้มอยู่ แล้วก็
สบายใจมีความสุขไปด้วยทุกครั้ง แล้วผู้ใหญ่จะรู้กันหรือเปล่านะว่าหลงกลเด็กแล้ว
ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเด็กเล็ก ๆ ที่สวัสดี ยิ้มหวาน โบกมือส่งจูบเป็น
ชุดสําเร็จรูปนั้นจริง ๆ แล้วเด็กทําไปเพราะรู้ภาษาหรือเพื่อแลกเปลี่ยนกับการถูกอุ้ม
ที่เด็ก ๆ ทุกคนชอบอยู่แล้วนะ หรือแลกกับการได้ไปเที่ยวดูสิ่งต่าง ๆ ดีกว่าต้อง
นอนแกร่วอยู่บนที่นอน หรือในเปลแล้วมองดูโมบายปลาตะเพียนกุ๊งกิ้ง ๆๆๆ อยู่ทั้ง
วัน หรือนอนทําตาปริบๆ ฟังนิทานที่เกี่ยวกับเด็กซํ้า ๆๆๆ จนจําได้ขึ้นใจแล้ว แล้ว
ตั้งใจไว้ว่าพอพูดได้เมื่อไหร่แล้วจะเล่ากลับคืนให้หมดแบบไม่ให้ตกหล่นเลยนะ
คิดมาถึงตรงนี้ก็จะสังเกตได้ว่ายังไม่มีแม่คนไหนเลย ที่จะสอนให้ลูก
ตัวเองฝึกการร้องไห้สวย ๆ ฝึกการเบะปากสวย ๆ เวลาที่ต้องร้องไห้เลยนะเท่าที่
ดูและพบเห็นแม่ลูกทุกคู่ (อยากคิดว่าทั้งโลกนี้เลย) ก็ไม่เห็นมีใครสอนลูกร้องไห้เลย
จริง ๆ แล้วในตําราการเลี้ยงลูกเล่มไหนก็ไม่เห็นมี ไม่ทราบว่าคนอื่นจะเคยคิดแบบ
นี้หรือเปล่านะ ที่เห็นจนชินตาก็มีแต่การสอนลูกยิ้มนี่แหละ แต่เวลาที่ลูกร้องไห้ แม่
ทุกคน ทุกชาติ ทุกเผ่าพันธุ์ ก็จะอ้าแขนออกไปโอบตัวลูกน้อยไว้ ส่วนอีกมือที่ว่าง
อยู่ก็จะคอยลูบไล้ตามตัว หรือหัวของลูกไว้เบาอย่างทะนุถนอม และมักจะพูดเป็น
ประโยคสามัญประจําปากของแม่ทุกคนว่ากันไปนะ