Page 21 - บทที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
P. 21
G E L 1 1 0 1 ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย | 59
1) การใช้ค าให้กะทัดรัด ไม่ฟุ่มเฟือย คือใช้ค าให้กระชับ ไม่ใช้ค าที่ไม่จ าเป็น โดย
หากตัดค าที่มีความหมายซ ้าหรือไม่จ าเป็นต้องใส่ออกแล้วไม่เสียความ เช่น
ประโยคที่ใช้ค าฟุ่มเฟือย ประโยคที่แก้ไขแล้ว
ในที่สุดเขาก็ตายลง ในที่สุดเขาก็ตาย
วิทยากรท าการบรรยายให้ความรู้แก่นักศึกษา วิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่นักศึกษา
เธอก าลังแหงนหน้าเงยขึ้นมองดูบนฟ้ า เธอแหงนหน้ามองดูบนฟ้ า
นักเรียนควรให้ความสนใจบทเรียน นักเรียนควรสนใจบทเรียน
2) การใช้ค าที่ไม่ก ากวมหรือมีความหมายคลุมเครือ คือการไม่ใช้ค าที่อาจตีความ
ได้หลายความหมาย มีความหมายลักลั่น ท าให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจผิดหรือรับสารผิดความได้
เช่น
ประโยคที่ใช้ค าก ากวม ความหมาย
เธอสวยไปหมด 1. สวยจริง ๆ
2. ไม่สวยเลย
คนเก็บขยะออกจากบ้านเมื่อวานนี้ 1. คนเก็บขยะออกจากบ้าน
2. มีคนเก็บขยะออกจากบ้าน
เธอนี่อ้วนสวยดีนะ 1. ชม
2. ต าหนิ
เธอนี่หน้าตาดีขึ้นกว่าเดิมเยอะนะ 1. ชม
2. ต าหนิ
(3) การใช้ค าให้เหมาะสมและสละสลวย
การใช้ค าให้เหมาะสมและสละสลวยนั้น คือ การใช้ค าให้ตรงตามรูปประโยค
ความหมาย วัตถุประสงค์ในการสื่อสารและบริบทของรูปประโยคทั้งส านวนภาษา ระดับภาษา
และบริบทของการสื่อความหมายอื่น ๆ โดยการใช้ค าให้เหมาะสมและสละสลวยนั้น อาจสรุปได้
กว้าง ๆ ใน 3 ลักษณะ ได้แก่ การใช้ค าภาษาต่างประเทศอย่างเหมาะสมและไม่ใช้รูปประโยคที่ไม่
เป็นภาษาไทย การใช้ระดับภาษาอย่างเหมาะสมและสม ่าเสมอ และการใช้ค าให้เหมาะสมกับ
บุคคล กาลเทศะและบริบททางสังคมวัฒนธรรม