Page 16 - บทที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
P. 16
54 | G E L 1 1 0 1 ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย
ค าว่า “จอบ” มีความหมายโดยตรง 3 ความหมาย ได้แก่
จอบ หมายถึง เครื่องมือส าหรับขุด พรวน หรือถากดิน ท าด้วยเหล็กหน้าแบนกว้าง มี
ด้ามยาว; เรียกฟันหน้าบนที่ใหญ่กว่าปรกติ ว่า ฟันจอบ.
จอบ หมายถึง (ถิ่น-อีสาน) แอบ, ลอบ, คอยฟัง; (ถิ่น-พายัพ) ล่อ, เล้าโลม, ชักชวน.
จอบ หมายถึง ชื่อหอยทะเลกาบคู่ในวงศ์ Pinnidae เปลือกค่อนข้างเปราะ รูปร่าง
คล้ายซองพลู ปลายด้านหนึ่งแผ่บานออก อีกด้านหนึ่งเรียวลง สีน ้าตาลอมเทา มีหลายชนิด เช่น
ชนิด Pinna bicolor, Atrina vexillum, ซองพลู ก็เรียก.
(2) ค าที่มีความหมายโดยนัย หมายถึง ค าที่มีความหมายไม่ตรงตามรูปศัพท์ แต่ใช้ค า
เพื่อเชื่อมโยงหรือมีนัยประหวัดไปยังความหมายอื่น โดยผู้รับสารจะเข้าใจความหมายจากบริบท
แวดล้อมในการสื่อสาร ตัวอย่างค าที่มีความหมายโดยนัย
“เธอเป็นดาวของห้อง” ค าว่า ดาว หมายถึง ความสวยหรือความโดดเด่นกว่าคนอื่นซึ่ง
ท าให้มีนัยประหวัดถึงดาวบนท้องฟ้ าที่งดงาม
“พ่อแม่ไฟเขียวให้คบหากันได้” ค าว่า ไฟเขียว หมายถึง ยินยอม อนุญาต ซึ่งท าให้มี
นัยประหวัดถึงการจราจร ไฟเขียวสามารถเดินรถผ่านไปได้
“ไม่มีใครเค็มเท่ากับคุณนายคนนี้อีกแล้ว” ค าว่า เค็ม หมายถึง ตระหนี่ ไม่อยากเสีย
อะไรโดยไม่ได้ผลตอบแทนซึ่งท าให้มีนัยประหวัดถึงการปรุงอาหาร หากเค็มมากจะท าให้
รับประทานไม่ได้ จึงต้องใส่เกลือหรือน ้าปลาแต่เพียงน้อย
“เมื่อคืนตีนแมวย่องเข้าบ้านของลุง” ค าว่า ตีนแมว หมายถึง นักย่องเบา ซึ่งท าให้มี
นัยประหวัดถึงการเดินของแมวที่เบาและไม่มีเสียง
2.2.1.2 หลักการใช้ค า
การใช้ค าในการสื่อสารนั้น ผู้สื่อสารควรรู้หลักการใช้และใช้ให้
ถูกต้องเพื่อให้การสื่อสารนั้นเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยหลักการใช้ค ามีหลักเกณฑ์กว้าง ๆ ซึ่งแบ่งได้ 4
หลักดังนี้
(1) การใช้ค าให้ถูกต้อง
การใช้ค าใช้ถูกต้องนั้นแบ่งได้กว้าง ๆ 4 ลักษณะ ได้แก่ การใช้ค าให้ถูกต้องตรงตาม
ความหมาย การใช้ค าให้ถูกต้องตามหน้าที่ของค า การสะกดค าให้ถูกต้องตามอักขรวิธี และการใช้
ลักษณนามให้ถูกต้อง
1) การใช้ค าให้ตรงตามความหมาย คือ การที่ผู้ส่งสารใช้ค าที่มีความหมายหนึ่งไป
ใช้ให้ตรงตามความหมายนั้น เนื่องจากค าในภาษาไทยนั้นมีหลายค าที่มีความหมายคล้ายคลึงกัน