Page 15 - บทที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
P. 15
G E L 1 1 0 1 ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย | 53
สิริวรรณ นันทจันทูล (2556, หน้า 54) อธิบายความหมายของค าไว้ว่า “ค า คือเสียงที่
เปล่งออกมาแล้วมีความหมาย เกิดจากการประสมเสียงพยัญชนะ เสียงสระและเสียงวรรณยุกต์”
จากความหมายของค าข้างต้น อาจพอสรุปได้ว่า ค า หมายถึงเสียงที่เปล่งออกมาแล้วมี
ความหมาย
2.2.1.1 ชนิดของค า
การแบ่งชนิดของค าอาจเป็นได้หลายลักษณะ เช่น แบ่งตาม
หน้าที่หรือชนิดของค า แต่ในที่นี้จะแบ่งชนิดของค าตามการสื่อสารความหมาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น
2 ชนิด ดังนี้
(1) ค าที่มีความหมายโดยตรง หมายถึง ค าที่มีความหมายตามรูปศัพท์ สามารถสื่อสาร
ความหมายได้อย่างตรงไปตรงมา เช่น ค าว่า “นั่ง” หมายถึง อาการที่หย่อนก้นให้ติดกกับพื้นหรือที่
รองเช่นเก้าอี้ (ราชบัณฑิตยสถาน, 2542)
ค าที่มีความหมายโดยตรงนี้ยังแบ่งได้อีก 2 ลักษณะ ได้แก่ ค าที่มีความหมายโดยตรง
เพียงความหมายเดียว กับค าที่มีความหมายโดยตรงหลายความหมาย (สิริวรรณ นันทจันทูล,
2556, หน้า 55) โดยค าที่มีความหมายโดยตรงเพียงความหมายเดียว คือค าที่มีความหมายหนึ่ง
เดียว ไม่มีความหมายอื่น เช่น
ค าว่า “กระบุง” หมายถึง ภาชนะสานทึบรูปกลมสูง พื้นก้นเป็ นสี่เหลี่ยม
(ราชบัณฑิตยสถาน, 2542)
ค าว่า “เก้าอี้” หมายถึง ที่ส าหรับนั่ง มีขาและพนักพิง มักยกย้ายไปมาได้ มีหลายชนิด,ถ้า
มีรูปยาวใช้นอน เรียกว่า เก้าอี้นอน, ถ้าใช้โยกได้ เรียกว่า เก้าอี้โยก, ลักษณนามว่า ตัว. (จ.).
(ราชบัณฑิตยสถาน, 2542)
ส่วนค าที่มีความหมายโดยตรงหลายความหมาย คือ ค าที่มีความหมายมากกว่าหนึ่ง
โดยเปลี่ยนไปตามบริบทของค านั้น เช่น
ค าว่า “ฉัน” มีความหมายโดยตรง 4 ความหมาย ได้แก่
ฉัน หมายถึง ค าใช้แทนตัวผู้พูด พูดกับผู้ที่เสมอกันหรือผู้ใหญ่พูดกับผู้น้อย, เป็นสรรพ
นามบุรุษที่ ๑.
ฉัน หมายถึง กิน (ใช้แก่ภิกษุสามเณร).
ฉัน หมายถึง เสมอเหมือน, เช่น, อย่าง, เช่น ฉันญาติ.
ฉัน หมายถึง มีแสงกล้า, มีแสงพุ่งออกไป, เช่น พระสุริฉัน. (ราชบัณฑิตยสถาน, 2542)