Page 14 - บทที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
P. 14
52 | G E L 1 1 0 1 ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย
ระดับภาษาทางการในกฎหมาย
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
มาตรา 16 ผู้ใดน าเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่ง
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น
ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่
น่าจะท าให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวาง
โทษจ าคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
ถ้าการกระท าตามวรรคหนึ่ง เป็นการน าเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระท า
ไม่มีความผิด
ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส
หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย
ตอนที่ 2.2 ความรู้เรื่องการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
ในกระบวนการสื่อสารนั้น ผู้ส่งสารและผู้รับสารจ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้
พื้นฐานทางภาษาไทยและมีทักษะในการสื่อสารอย่างดี เพื่อให้ใช้ภาษาในการสื่อสารอย่างสัมฤทธิ์
ผล โดยการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารที่ดีนั้น ผู้สื่อสารควรมีความรู้พื้นฐานทางภาษาคือ การรู้
หลักการใช้ค า ประโยค โวหาร และส านวน ซึ่งหลักการใช้สรุปได้ ดังนี้
เรื่องที่ 2.2.1 การใช้ค า
ค าเป็นเครื่องมือในการสื่อสารอันส าคัญพื้นฐาน ผู้ส่งสารควรเรียนรู้การ
ใช้ค าในลักษณะต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้ค าได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและตรงตามวัตถุประสงค์ใน
การสื่อสาร มีนักวิชาการหลายท่านให้ความหมายค าไว้หลากหลาย สรุปดังนี้
พระยาอุปกิตศิลปสาร (2514, หน้า 59) ให้ความหมายของค าไว้ว่า “ค าคือเสียงที่พูด
ออกมาได้ความอย่างหนึ่ง ตามความต้องการของผู้พูด จะเป็นกี่พยางค์ก็ตามเรียกว่า ค าหนึ่ง บาง
ค าก็มีพยางค์เดียว บางค าก็มีหลายพยางค์”
นววรรณ พันธุเมธา (2558, หน้า 3) กล่าวถึงเรื่องการจ าแนกค าซึ่งท าให้เห็น
ความหมายของค าไว้อย่างน่าสนใจว่า “ในฐานะผู้ใช้ภาษา เราพอจะทราบว่าเสียงที่เปล่งออกมา
ครั้งหนึ่ง ๆ นั้นเป็นค าหรือไม่ ถ้าเสียงที่เปล่งออกมายังไม่มีความหมาย เราก็ยังไม่ถือว่าเป็นค า”