Page 138 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 138

130





                                                ลักษณะ ๗
                                        กำรบังคับตำมค�ำพิพำกษำ

                                           ________________


                          ๒๔
                มำตรำ 6๔  ภำยใต้บังคับมำตรำ ๒๔๖ ถึงมำตรำ ๒๔๘ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ
           ควำมอำญำ และมำตรำ ๒๒ แห่งพระรำชบัญญัติเรือนจ�ำทหำร พุทธศักรำช ๒๔๗9 ค�ำพิพำกษำของศำลทหำร
           เว้นแต่ศำลอำญำศึกหรือศำลที่พิจำรณำพิพำกษำคดีแทนศำลอำญำศึกตำมมำตรำ ๔0 เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว

                      ั
                                                                                    ึ
                                                                                      ั
           ให้ผู้มีอ�ำนำจส่งลงโทษจัดกำรให้เป็นไปตำมค�ำพิพำกษำ ถ้ำเป็นค�ำพิพำกษำของศำลทหำรซ่งน่งพิจำรณำ
           ณ ศำลพลเรือนและมีผู้พิพำกษำศำลพลเรือนเป็นตุลำกำรตำมมำตรำ ๓๗ ให้บังคับคดีไปตำมมำตรำ ๒๔๕
           วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ ๒๕
                                                     ี
                ส่วนค�ำพิพำกษำของศำลอำญำศึก หรือศำลท่พิจำรณำพิพำกษำคดีแทนศำลอำญำศึก ตำมมำตรำ
           ๔0 ให้ผู้มีอ�ำนำจสั่งลงโทษจัดกำรให้เป็นไปตำมค�ำพิพำกษำได้ทีเดียว เว้นแต่ผู้ต้องค�ำพิพำกษำให้ประหำร
           ชีวิตเป็นหญิง ถ้ำมีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนพ้นก�ำหนดสำมปีนับแต่คลอดบุตร แล้วให้ลดโทษประหำรชีวิต
                                                                                          ั
                            ิ
                                        ุ
                                                                                   ่
                                     ่
                                     ื
           ลงเหลือจ�ำคุกตลอดชีวต เว้นแต่เมอบตรถึงแก่ควำมตำยก่อนพ้นก�ำหนดเวลำดังกล่ำว ในระหวำงสำมปีนบแต่
                          ั
                                                             ี
           คลอดบุตร ให้หญิงน้นเล้ยงดูบุตรตำมควำมเหมำะสมในสถำนท่ท่สมควรแก่กำรเล้ยงดูบุตรภำยในเรือนจ�ำ ๒๖
                                                           ี
                             ี
                                                                          ี
                                                 ี
                      ี
                ในคดีท่อุทธรณ์ได้ตำมพระรำชบัญญัติน้ ศำลทหำรช้นต้นมีหน้ำท่ต้องส่งส�ำนวนคดีท่พิพำกษำ
                                                            ั
                                                                                      ี
                                                                      ี
                                                                                             ั
           ให้ลงโทษประหำรชีวิต หรือจ�ำคุกตลอดชีวิตไปยังศำลทหำรกลำงในเม่อไม่มีกำรอุทธรณ์ค�ำพิพำกษำน้น
                                                                   ื
           และค�ำพิพำกษำเช่นว่ำนี้ยังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ศำลทหำรกลำงจะได้พิพำกษำยืน
                มำตรำ 6๕ ผู้มีอ�ำนำจสั่งลงโทษ คือ
                                             ึ
                                                                              ึ
                                                            ั
                                                        ั
                (๑) นำยทหำรผู้บังคับบัญชำจ�ำเลยซ่งมีต�ำแหน่งต้งแต่ช้นผู้บัญชำกำรกองพลข้นไป หรือมีต�ำแหน่ง
                                ึ
            ั
                                                           ั
                 ้
                 ั
                                                                                           ึ
                                                                        ้
                                                                        ั
                                                ิ
                                                  ั
           ต้งแต่ชนผู้บังคับกองพันข้นไปท่อยู่ต่ำงท้องถ่นกบผู้บงคับบญชำต�ำแหน่งชนผู้บัญชำกำรกองพลข้นไป
                                     ี
                                                      ั
           เป็นผู้มีอ�ำนำจสั่งลงโทษตำมค�ำพิพำกษำของศำลจังหวัดทหำร ศำลมณฑลทหำร หรือศำลทหำรกรุงเทพ
                                                                              ี
                                                ั
                                ั
                                                                                             ิ
                (๒) ผู้มีอ�ำนำจแต่งต้งตุลำกำรศำลทหำรช้นต้นเป็นผู้มีอ�ำนำจส่งลงโทษในกรณีท่จ�ำเลยอยู่ต่ำงท้องถ่น
                                                                ั
           กับผู้บังคับบัญชำหรือไม่อยู่ใต้บังคับบัญชำของทหำร
                                                                                  �
                                                                                       ั
                                 ั
                        �
                (๓) ผู้มีอำนำจแต่งต้งตลำกำรศำลประจ�ำหน่วยทหำร หรือศำลอำญำศกเป็นผ้มีอำนำจส่งลงโทษ
                                                                               ู
                                                                         ึ
                                   ุ
           ตำมค�ำพิพำกษำของศำลนั้น ๆ
                ๒๔  มำตรำ ๖๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๑
                ๒๕  มำตรำ ๖๔ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕0๓
                ๒๖  มำตรำ ๖๔ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143